นายสุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ผู้นำนวัตกรรมด้านการให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีครบวงจร เปิดเผยถึงกระแส "เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก หรือ ดิสรัปชั่น" ว่า เป็นสิ่งที่องค์กรได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงมาตลอดระยะเวลาสองสามปีที่ผ่านมา โดยมุ่งศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างรอบด้าน เพื่อหาแนวทางพัฒนาโซลูชั่นส์ บริการ หรือการสนับสนุนทางเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทำให้ลูกค้าก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างราบรื่น และสร้างผลสัมฤทธิ์สูงสุดทางธุรกิจ พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรที่เดิมมีความเชี่ยวชาญเชิงลึกเฉพาะด้าน เช่น ยูนิกซ์ จาวา ให้สามารถปรับเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งใหม่ให้เร็ว หลากหลาย และต่อเนื่องมากขึ้น
"ระบบไอทีที่เราติดตั้งให้กับลูกค้าซึ่งเคยใช้เวลา 3 ปีกว่าจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนระบบใหม่ ตอนนี้กลับมีการลงทุนที่เร็วกว่าเดิม แสดงให้เห็นถึงวงจรชีวิตของเทคโนโลยีนั้นสั้นลง หรือถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในเวลาไม่นาน โซลูชั่นส์ซึ่งเปลี่ยนจากการขายขาด เป็นการเช่าใช้งานแล้วแต่ต้องการ ก็สะท้อนว่า การใช้ไอทีที่พร้อมเพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนจากเทคโนโลยีหนึ่งไปอีกเทคโนโลยีหนึ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งบุคลากรของเราก็ต้องมีทักษะและความสามารถที่ตามให้ทันการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดนี้ให้ได้"
ทั้งนี้การปรับปรุงโครงสร้างของหน่วยงานฝ่ายขายและบริการ โดยยังคงรูปแบบการดูแลลูกค้าเป็นราย ๆ (Account Focus) แต่เพิ่มเติมประสิทธิภาพให้ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยโมเดลการบริการที่แยกตามโซลูชั่นส์หรือแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยี เช่น โซลูชั่นส์ระบบความปลอดภัย คลาวด์ บิ๊ก ดาต้า และการวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ ไอโอที การมีทีมเฉพาะกิจไว้คอยเกาะติดแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาโซลูชั่นส์และการบริการที่สนับสนุนแผนบริหารจัดการด้านไอที หรือเพิ่มประสิทธิผลทางธุรกิจของลูกค้าในเชิงปริมาณและคุณภาพแบบมองไกลถึงอนาคต
"เรายังร่วมมือกับผู้ประกอบการในสายอุตสาหกรรมอื่น (Cross Industry) เพื่อพัฒนาโซลูชั่นส์ที่สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการทำธุรกิจ เช่น ทีมที่ดูแลเรื่อง ไอโอที ซึ่งตั้งมาได้สักประมาณหนึ่งปีเต็ม เราก็เริ่มเห็นช่องทางขยายธุรกิจโดยไปจับมือกับผู้ผลิตเครื่องจักรในการพัฒนาไอโอทีซึ่งใช้เซ็นเซอร์ในการเก็บข้อมูลการทำงานของเครื่องจักร เพื่อนำมาประมวลผล ตรวจประเมิน เฝ้าระวัง หรือติดตามประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องจักรในสายการผลิตสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์ทางธุรกิจได้มากขึ้น การจับมือกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มยิบอินซอยเพื่อบูรณาการนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจซึ่งกันและกัน เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีระบบจัดการและกักเก็บพลังงานไฟฟ้า เพื่อเสริมธุรกิจการรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดย่อย การออกแบบโซลูชั่นส์ที่ช่วยในการวางแผนและคาดการณ์ระบบจัดการน้ำ ปุ๋ย ร่วมกับบริษัทผลิตเคมีเกษตร เพื่อเสนอระบบการจัดการแบบองค์รวมให้กับธุรกิจภาคเกษตรกรรม เป็นต้น"
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการขยายขอบข่ายความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้พัฒนาหรือให้บริการแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์โซลูชั่นส์ทุกค่าย เพื่อพร้อมสนับสนุนประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ เช่น การจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับผู้ให้บริการคลาวด์หรือเว็บเซอร์วิสที่หลากหลายให้สามารถตอบสนองได้ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน ทั้งคลาวด์ส่วนตัว คลาวด์สาธารณะ หรือไฮบริด คลาวด์ ความร่วมมือกับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นส์ที่สนับสนุนการทำงานบนคลาวด์ เช่น ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ เป็นต้น
นายสุภัคกล่าวเพิ่มเติมว่า ความได้เปรียบของยิบอินซอยในฐานะเอสไอ เกิดจากการยืนหยัดในธุรกิจด้านไอทีมาอย่างยาวนาน ประกอบกับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เชิงลึกและหลากหลาย ซึ่งสั่งสมจากการก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาหลายยุคหลายสมัย สิ่งเหล่านี้ได้ตกผลึกเป็นองค์ความรู้ที่แข็งแกร่งซึ่งต่อยอดไปสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา ธุรกิจไอทีสามารถสร้างรายได้ในสัดส่วนที่สูงราว 70-80% ของรายได้รวมที่มาจากทุกกลุ่มธุรกิจของยิบอินซอย
"ถ้าให้มองยิบอินซอยอีก 3-5 ปีข้างหน้า ปรัชญาธุรกิจเราคงเหมือนเดิม คือ ไม่ทิ้งลูกค้า ไม่ทิ้งคู่ค้า และเราจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะของบุคลากรให้เท่าทันกับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา การกระชับโครงสร้างองค์กรให้กะทัดรัดเพื่อขับเคลื่อนการทำงานที่รวดเร็วตรงจุด ตลอดจนเฝ้าติดตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงและมุ่งแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพการให้บริการ และตอบแทนความเชื่อมั่น ความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับองค์กร รวมถึงพิสูจน์ให้เห็นว่า ยิบอินซอยพร้อมเดินเคียงข้างในฐานะเพื่อนคู่คิดทางเทคโนโลยีไปตลอดเส้นทางธุรกิจของพวกเขา "