ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านการออกแบบการสร้างผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลง และ ผู้ก่อตั้ง โซเซียล แล็บ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ สามพรานโมเดล อะคาเดมี่ โดยคุณอรุษ นวราช จัดทำหลักสูตรพิเศษเพื่อการพัฒนาทักษะและศักยภาพผู้นำยุคใหม่ คือ ผู้นำเชิงระบบ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ซึ่งเป็นสองทักษะสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้นำยุคใหม่ ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน องค์กรขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพราะจากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้น และมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงกระแสโซเซียลมีเดียที่สามารถสร้างหรือ Disrupt คน หรือธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คนเผชิญกับความท้าทายอย่างมากมายที่จะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจของปัญหาเชิงระบบ ความเชื่อมโยงของปัญหา และมีทักษะในการคิด ตัดสินใจอย่างเป็นระบบ เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับความร่วมมือจากพลังของทุกฝ่าย
"ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความแตกต่างของผู้คน และวัย อย่างสุดขั้ว ทำให้วันนี้วิถีการนำเดิมๆ แบบข้าเก่งคนเดียว ข้าเป็นฮีโร่นั้นใช้ไม่ได้แล้ว ผู้นำยุคใหม่จะต้องไม่เพียงเห็นรากของปัญหา เห็นความเชื่อมโยง แต่จะต้องสามารถเห็นโอกาส สามารถสร้างผู้นำร่วมมาจัดการกับปัญหาเชิงระบบนั้น รวมถึงจะต้องมีความเข้าใจจิตวิทยาเชิงบวก สามารถจัดการกับอารมณ์ พฤติกรรมของตนเอง และทีมงาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และพาตนเอง ครอบครัว รวมถึงองค์กรสู่ความยั่งยืน"
ดร. อุดม ได้กล่าวถึงความสำคัญของหลักสูตรผู้นำเชิงระบบ ว่า "คนส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องระบบผิดหมดเลย เพราะเราคุ้นเคยกับคำว่าระบบในบริบทที่แตกต่างกันมาก โดยส่วนใหญ่จะได้ยินว่า ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ขณะที่ความเข้าใจเรื่องระบบ นั้นมีมุมมองสองแบบคือ เข้าใจว่ามีระบบอยู่แล้ว แม้เกิดปัญหาก็ไม่ใช่หน้าที่ จึงไม่ต้องทำ และอีกมุมมองหนึ่งคือ เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระบบที่ใหญ่มาก จนไม่สามารถจะทำอะไรได้ จึงเห็นว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ด้วยเหตุนี้การไม่มีทักษะผู้นำเชิงระบบ จึงทำให้ผู้นำไม่เห็นความเชื่อมโยง ทำให้ไม่มีความพยายามที่จะนำ และทำให้สิ่งที่มีอยู่ดีขึ้น ซึ่งในหลักสูตรนี้ ทุกคนจะได้เข้าใจความหมายของระบบและเห็นโอกาสที่จะนำและสร้างผู้นำร่วมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ระบบมันดีขึ้น"
ทั้งนี้ ดร. อุดม ยังได้กล่าวถึง หลักสูตร การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ว่า "ทุกวันนี้เราได้ยินแต่เรื่อง AI จนเราจะกลายเป็นหุ่นยนต์ไปหมดแล้ว ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โลกไอที การแข่งขัน ได้ทำให้ความเป็นมนุษย์ของมนุษย์นั้นลดลงไป ซึ่งเป็นความจำเป็นที่ผู้นำจะต้องมาเรียนรู้ เข้าใจศาสตร์ความฉลาดรู้ทางอารมณ์ หรือ Emotional Intelligent หรือ EI เพื่อการบริหารจัดการพลัง และพฤติกรรมที่มากับอารมณ์ ในการอบรมครั้งนี้ ผู้นำจะได้เข้าใจจิตวิทยาเชิงบวก พื้นฐานภาวะความเป็นผู้นำ ผลของอารมณ์ที่มีต่อพฤติกรรม ต่อประสิทธิภาพการทำงาน และจะได้ฝึกปฏิบัติเพื่อเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างแรงจูงใจที่จะดึงศักยภาพของตนเอง และของผู้อื่น ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อจะได้วางแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อแก้ไขปัญหาที่สลับซับซ้อนให้ลุล่วงโดยไม่หวาดหวั่น โดยในการอบรมครั้งนี้ทุกคนจะได้ฝึกปฏิบัติ 5 กฎทองของการเป็นผู้นำเชิงบวกที่มีประสิทธิภาพ ใช้ได้ทุกสถานการณ์ อาทิ หยุดเพื่อก้าวให้เร็วขึ้น รู้ว่าเราไม่รู้ ออกแบบคำถามใหม่ กำหนดทิศทางไม่ใช่แค่ปลายทาง และทดสอบทิศทาง
ด้านนายอรุษ นวราช ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล อะคาเดมี่ กล่าวว่า มั่นใจว่าเนื้อหาและรูปแบบการสอนของทั้งสองหลักสูตร ที่เน้นให้ผู้นำได้ฝึกปฏิบัติจริง มีทักษะความเป็นผู้นำได้จริงๆ โดยจะมีการให้ทดลองฝึกใช้เทคนิคและเครื่องมือหลากหลาย ซึ่งไม่มีการสอนในสถาบันการศึกษาใดๆ ในประเทศไทย จะตอบโจทย์ความต้องการการพัฒนาบุคลากรและผู้นำที่จำเป็นของทุกองค์กรได้อย่างมากมาย
สำหรับหลักสูตรผู้นำเชิงระบบ จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 มีนาคม 2562 ส่วนหลักสูตรผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก จะจัดขึ้นวันที่ 4-5 พฤษภาคม 2562 ที่สวนสามพราน โดยจะมีการนำกรณีศึกษาการทำงานสามพรานโมเดล มาให้ผู้อบรมได้เรียนรู้ และเข้าใจระบบ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเชิงระบบด้วย
ผู้สนใจขอข้อมูลเพิ่มเติม และสอบถามค่าใช้จ่ายได้ที่ สามพรานโมเดล อะคาเดมี่ (คุณณัฐธิดา ฟักขาว) โทร. 034-225-203 , 098-258-5313 อีเมล์ [email protected] หรือ ดูรายละเอียดการอบรมได้ที่ sampranmodel.com