นายปริญญ์ หมื่นสุกแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารสถานี คูล ฟาเรนไฮต์ (COOLfarenheit) กล่าวถึง ธุรกิจวิทยุ คลื่น คูลฟาเรนไฮต์ ในเครืออาร์เอส ว่า "ภาพรวมของ คูล ฟาเรนไฮต์ นับว่า โตสวนกระแส โดยมียอดผู้ฟังเพิ่มขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจบริษัท นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ผู้ทำวิจัยชั้นนำระดับโลก สรุปข้อมูลว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา คูล ฟาเรนไฮต์ มีผู้ฟังเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม จาก 1.2 ล้านคน/เดือน เป็น 1.8 ล้านคนในธันวาคมที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราการเพิ่มของจำนวนผู้ฟังถึง 50% ทำให้ยังคงแชมป์คลื่นวิทยุอันดับ 1 ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ในขณะที่ออนไลน์จำนวนผู้ฟังผ่านเว็ป ผ่านระบบ IOS และ Android มีจำนวน เพจวิวกว่า 60 ล้านเพจตลอด ทั้งปี ซึ่งความสำเร็จโดยภาพรวมส่งผลจากการทรานฟอร์มธุรกิจสู่สถานีเพลงในยุค 4.0 ที่ครบทุกมิติ และมีแนวคิดการทำการตลาดนอกกรอบ ทั้งในการวางแนวทางด้านกิจกรรมการตลาดที่สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ( Loyalty) ด้วยกิจกรรมในรูปแบบ CRM (Customer Relations Management) มอบพริวิลเลจแก่ผู้ฟัง (COOLprivilege), การเพิ่มยอดผู้ฟังออนไลน์ด้วยคะแนนสะสมและรับของรางวัลและร่วมกิจกรรมเอ็กคลูซีฟ (COOLdegree) รวมถึงรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยว COOLouting และกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านการรับประทาน ที่มีแบรนด์เอ็นดอสเซอร์ (Brand Endorser) ที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับในแวดวงอาหาร มล. ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ มาร่วมครีเอทโปรแกรม คัดสรรอาหารที่มีนอกจากอร่อย แต่ยังมีตำนานอีกด้วย
ล่าสุด คูล ฟาเรนไฮต์ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดด้วยงบประมาณที่ 100 ล้านบาท ชูคอนเซ็ปต์ "รีจูวิเนชั่น" (Rejuvination) หรือการปรับให้แบรนด์ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แต่คงไว้ด้วยแบรนด์คาแรคเตอร์ 15 ปีของ คูล ฟาเรนไฮต์ คือ เป็นคลื่นวิทยุที่ตอบโจทย์ Music & Lifestyle Community เน้นการสร้างความประทับใจ และมิตรภาพแก่ผู้ฟังในกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 20-44 ปี แต่ในยุคนี้ ต้องคิดเร็ว ปรับเปลี่ยนเร็ว คัดสรรประสบการณ์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ฟังยุคดิจิตอลในเรื่องของเทรนด์ด้านไลฟ์สไตล์ในทุกเรื่อง ในขณะที่ก็ต้องเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม
โดยในส่วนกิจกรรมที่ปรับ และให้ผลตอบรับที่ดี ได้แก่ กิจกรรม COOLouting ที่ผ่านมา จากการพาผู้ฟังยกออฟฟิศไปเอ้าท์ติ้งยังจุดหมายเมืองท่องเทียวในประเทศ เป็นจุดหมายเมืองท่องเทียวต่างประเทศตลอดทั้งปี 5 จุดหมายคือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเก๊า มัลดีฟ และหลวงพระบาง ในส่วนกิจกรรม อิ๊งค์ Eat ALL Around ที่มี ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์ เป็นผู้พาไปชิมอาหารอร่อยตลอดปี ก็มีการโฟกัสเลือกไปชิมอาหารในคอนเซ็ปต์ "อร่อยเด็ด 7 เมืองรอง" ที่มีความเอ็กคลูซีฟใน 7 เมืองรองท่องเที่ยวของไทย ตลอดจนกิจกรรม COOL Music Fest ฟรีคอนเสิร์ตที่ยังคงจัดเพื่อกลุ่มผู้ฟัง COOL ให้ได้ย้อนเวลาและย้อนวัยกลับไปสนุกกันแบบมันส์ที่สุดใน 3 โลก รวมถึงการคิดนอกกรอบ ที่สร้างให้สถานีวิทยุเป็น One Stop Shopping เสิร์ฟให้ถูกใจคนออฟฟิศ ในส่วนของ Line@COOLanything เปลี่ยนคนฟังให้เป็นคนซื้อ ที่สร้างโปรโมชั่นที่แตกต่าง มีสินค้าที่เหมาะกับกลุ่มผู้ฟัง ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมคือ กลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง เป็นต้น
ทั้งนี้ คุณปริญญ์ กล่าวเสริมว่า "คูลฟาเรนไฮต์ ไม่กลัวการถูก Disrupt ของธุรกิจ เพราะโลกยุคดิจิตอล ต้องปรับตัวให้ทันอยู่เสมอ มองว่าคือความท้าทาย โดยเฉพาะในอีก 2-3 ปีนี้ การทำมาร์เก็ตติ้งของธุรกิจวิทยุต้องมีความปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว อินเทรนด์ มีการบริหารจัดการที่ดี ไม่นับปัจจัยด้านเทคโนโลยี ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักการตลาดในธุรกิจจำเป็นต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ ออกมาให้ทันสถานการณ์ โดยล่าสุด คูล ฟาเรนไฮต์ ในฐานะสถานียอดนิยม ที่ได้รับเชิญจากกสทช.ให้ร่วมทดลองการออกอากาศในระบบ ดีเอบี พลัส (DAB+) ซึ่งเป็นระบบที่ชัดกว่าเอฟเอ็มในปัจจุบัน เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจวิทยุยังไม่ตาย แต่จะยังคงส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆสู่ผู้ฟัง และจะยังเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้ต่อไป โดยในปีที่ผ่านมา สถานีคูล ฟาเรนไฮต์ ก็สามารถทำรายได้ถึง 300 ล้านบาท"