ในการนี้ ที่ประชุมได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการทั้งสิ้น 68 โครงการ งบประมาณกว่า 3,500 ล้านบาท โดยมีศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ (Cooperative Distribution Center: CDC) จำนวน 122 แห่ง ทั่วประเทศเป็นหลักในการพัฒนาโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคการเกษตร มีการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ให้แก่สถาบันเกษตรกร อาทิ โกดังเก็บสินค้า รถโฟล์คลิฟท์ รถแทรกเตอร์ จำนวนกว่า 50 แห่ง มีการเพิ่มศักยภาพด่านสินค้าเกษตร โดยปรับปรุงห้องปฏิบัติการและจัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อให้ตรวจสินค้าเกษตรสะดวกรวดเร็วขึ้น จำนวน 27 แห่ง และมีการก่อสร้างด่านตรวจสัตว์น้ำ 1 แห่ง ในจังหวัดนราธิวาส
สำหรับปี 2562 กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดแผนงานโครงการทั้งสิ้น 53 โครงการ งบประมาณกว่า 2,500 ล้านบาท โดยมีแผนการพัฒนาโซ่คุณค่า (Value Chain) โซ่ความเย็น (Cold Chain) และการพัฒนากระบวนการด้านโลจิสติกส์สินค้าเกษตรให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล กลุ่มเป้าหมาย คือ สถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่
เพื่อให้การพัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร มีความสอดคล้องกับร่างแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ที่ประชุมจึงมีมติให้ยกร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2563 – 2565 โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์และโซ่อุปทานในเชิงพื้นที่ในสินค้าเกษตรชนิดใหม่ เช่น สมุนไพร มะพร้าวน้ำหอม แมลงเศรษฐกิจ สาหร่าย พรรณไม้น้ำ และปลากัด รวมถึง ส่งเสริมการบริการด้านโลจิสติกส์ ในสถาบันเกษตรกร เช่น บริการเก็บเกี่ยว บริการให้เช่าคลังสินค้า บริการห้องเย็น และบริการขนส่ง เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่สถาบันเกษตรกรและบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ จะได้มีการประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2563 – 2565 และแผนงาน/โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ต่อไป