นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 เห็นชอบโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบ เฉพาะฤดูการผลิต 2561/2562 ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และอนุมัติงบประมาณจำนวน 159.59 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง
ต่อมา เพื่อให้การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมสรรพสามิต จึงได้มีคำสั่งกรมสรรพสามิต ที่ 806/2561 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ โดยมีผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย และผู้แทนธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การการเกษตร โดยได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือของโครงการฯ รวมถึง การตรวจสอบข้อมูลรายชื่อเกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือที่มีจำนวนมากกว่า 12,000 ราย
โดยที่ประชุมได้มีมติให้ในส่วนของกรมสรรพสามิตตรวจสอบข้อมูลจากการออกใบอนุญาตให้เพาะปลูกต้นยาสูบฤดูการผลิต 2560/2561 และ 2561/2562 พร้อมทั้งจัดส่งรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ให้ ยสท เพื่อตรวจสอบกับข้อมูลรายชื่อเกษตรกรของ ยสท. ที่มีรายละเอียดถูกต้องครบถ้วนตรงกัน ซึ่งกลุ่มนี้มีเกษตรกรประมาณ 4,269 ราย วงเงินประมาณ 40 ล้านบาทเศษ และมอบหมายให้ ยสท. ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือในโครงการฯ ได้เป็นกลุ่มแรกภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 สำหรับรายชื่อเกษตรกรกลุ่มอื่นของ ยสท ได้แก่ เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบบ่มเองที่ได้รับโควตาแต่มีการโอนสิทธิ และเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบภายใต้ผู้บ่มอิสระที่ได้รับโควต้า เพื่อให้การดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือในโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ป้องกันการสวมสิทธิ การจ่ายเงินช่วยเหลือซ้ำซ้อน และการจ่ายเงินช่วยเหลือตามปริมาณโควตาที่ครบถ้วนถูกต้อง ที่ประชุมฯ จึงได้มอบหมายเพิ่มเติมให้ ยสท. ตรวจสอบสิทธิตามข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบภายใต้ผู้บ่มอิสระที่ได้รับโควตา ซึ่งอาจจำเป็นต้องกำหนดสัดส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาของโครงการฯ ที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม โดยคาดว่า ยสท จะจ่ายเงินช่วยเหลือในโครงการฯ เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยเร็วต่อไป