ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารออมสิน สหกรณ์บริการจักรเพชร จำกัดและมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้หารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งต่อมนายปรัชญา มากไมตรี ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 1, 2 และส่วนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลส่งเสริมสหกรณ์บริการจักรเพชร จำกัด ได้เชิญคณะกรรมการของสหกรณ์และผู้จัดการสหกณ์ พร้อมด้วยผู้แทนธนาคารออมสิน โดยนายสมเกียรติ อารีจิตพานิช ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค 2 ประชุมเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ฯ ร่วมกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ สหกรณ์ฯ ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยแจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2562 ได้มีมติให้สหกรณ์ฯ รับหนี้แทนสมาชิกทั้งหมดที่ได้กู้เงินมาจากธนาคารออมสิน เบื้องต้นจะตรวจสอบข้อมูลก่อนจะรับโอนเงินกู้ของสมาชิกมาจากธนาคารออมสินว่ามีจำนวนเท่าใด ส่งชำระหนี้ธนาคารออมสินไปแล้วเท่าใด คงเหลือเท่าใด รวมทั้งข้อมูลว่าสมาชิกเป็นหนี้กับสหกรณ์ฯ เท่าใด ชำระหนี้ไปแล้วเท่าใด คงเหลือยอดหนี้และยอดเงินฝากอยู่ที่สหกรณ์เท่าใด เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว จึงแจ้งให้สมาชิกมายืนยันข้อมูลว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ จากนั้นจึงให้สมาชิกตัดสินใจว่าจะปิดสัญญาเงินกู้ที่สหกรณ์ฯ หรือธนาคารออมสิน เพื่อให้คงเหลือเพียงสัญญาเงินกู้เพียงสัญญาเดียว และให้สมาชิกผ่อนชำระหนี้กับทางสหกรณ์หรือธนาคารออมสินทางเดียว ซึ่งในช่วงที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและรอการประชุมหารือร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ธนาคารออมสินจะชะลอการติดตามเร่งรัดหนี้หรือดำเนินคดีกับสมาชิกทุกราย และพร้อมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความประสงค์ของสมาชิกเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน
"ที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกัน โดยให้สหกรณ์เร่งรัดทำงบการเงินให้แล้วเสร็จเพื่อให้ผู้สอบบัญชีเข้าตรวจสอบได้ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.62 และทางสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 ทำหนังสือถึงธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เพื่อขอทราบข้อมูลการกู้เงินและการชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ที่กู้เงินกับออมสินทุกราย จากนั้นจะสรุปข้อมูลของสมาชิกในการกู้เงินและการชำระหนี้จากธนาคารออมสินและสหกรณ์ฯ ให้แล้วเสร็จ ภายใน 20 ก.พ.62 ก่อนจะนัดประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของสมาชิกสหกรณ์ฯ อีกครั้ง"ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 กล่าว