นางสาวปริสุทธิ์ รัตนมหาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สมาร์ทฟินน์ โซลูชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า การขายฝากอสังหาริมทรัพย์ มีมานานกว่า 60 ปี โดยธุรกิจขายฝากมีมูลค่ารวม 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งผู้ที่นำทรัพย์ของตนมาขายฝาก มักมีความจำเป็นเร่งด่วน ผู้ขายฝากต้องเผชิญกับข้อเสนอที่ไม่ค่อยเป็นธรรมนัก และมักมีรูปแบบการซื้อฝาก ขายฝาก แบบเรียกดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่วนผู้รับซื้อฝากก็อาจติดขัดเรื่องระยะเวลาการเดินทางไปดูทรัพย์ที่จะมาขายฝาก ด้วยช่องว่างจากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น SMARTFINN จึงสร้างแพลตฟอร์มแมชชิ่ง การขายฝากอสังหาริมทรัพย์ระหว่างผู้ต้องการเงินกับนักลงทุน โดยนำช่องทางเทคโนโลยีมาใช้ ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ www.smartfinn.co.th ให้เกิดประโยชน์กับผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก ใน Deal (ข้อตกลง) ที่เป็นธรรมและมีมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการช่วยผู้ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือมีภาระหนี้ ที่ไม่สามารถกู้หรือขอวงเงินจากสถาบันการเงินได้ ให้เป็นทางเลือกของ SMEs ไม่ต้องไปพึ่งนายทุนนอกระบบ โดยนักลงทุนกับผู้ขายฝากสามารถเสนอราคาหรือ Bidding Rate กันได้ สร้างความพึงพอใจให้ทั้ง 2 ฝ่าย (ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด) นักลงทุนจะมีอสังหาริมทรัพย์มูลค่าสูงกว่าเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงิน รวมถึงได้ช่วยเหลือ SMEs ไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ SMEs ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น นอกจาก SMARTFINN จะเป็นแพลตฟอร์มแมชชิ่ง ที่เสนอราคาแข่งขันกันได้แล้ว ยังมีจุดเด่นที่ การตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินเป็นหลัก โดยบริษัทประเมินที่มีมาตรฐาน ใช้เวลาอนุมัติไวไม่เกิน 2 สัปดาห์เท่านั้น
และจากการดำเนินการมาตลอดระยะเวลาร่วม 2 ปี SMARTFINN มีผลตอบรับที่ดี เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินต่างมีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อ จึงทำให้ SMARTFINN เป็นตัวเลือกที่สำคัญที่ช่วยนำแพลตฟอร์มมาเชื่อมโยง ผู้ที่ต้องการเงินทุนและมีอสังหาริมทรัพย์เข้ากับผู้ที่มีเงินและต้องการผลตอบแทนมาพบกัน โดยผลประกอบการในปี 2561 SMARTFINN สามารถแมชชิ่งดีลให้ลูกค้าได้กว่า 260 ดีล เป็นมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท และในปี 2562 SMARTFINN ตั้งเป้าหมาย แมชชิ่งดีลให้ได้มากกว่า 1,000 สัญญา มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้ามาลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม www.smartfinn.co.thและโทรศัพท์เข้ามาด้วยร่วม 5,000 ราย และ SMARTFINN สามารถแมชชิ่งดีลได้แล้วกว่า 300 ดีล โดยยังอยู่ในระยะรอผลอีกประมาณ 200 เคส
โดยปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่า SMEs มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งทำให้เกิดการสร้างงาน และกระจายรายได้ เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้มีการเติบโต และที่สำคัญคือ SMEs ไทยเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศสูงมาก แต่ปัญหาและอุปสรรคของ SMEs ไทยคือการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่ง SMARTFINN เล็งเห็งถึงปัญหานี้จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน SMEs ไทย ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อใช้ในการพัฒนากิจการให้แข็งแกร่ง และเมื่อ SMEs แข็งแรงขึ้น ก็เท่ากับช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นได้อีกด้วย นางสาวปริสุทธิ์ กล่าวปิดท้าย