ก.ล.ต. เดินหน้าวางรากฐานตลาดทุนไทย ใช้เทคโนโลยีนำ สร้างความมั่งคั่งให้คนไทย

พฤหัส ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๑:๔๔
ก.ล.ต. เผยผลงานรอบปีที่ผ่านมาบรรลุผลตามเป้าหมาย วางรากฐานตลาดทุนเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน ปรับวิธีกำกับดูแลให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และยกระดับมาตรฐานเทียบเท่าสากล พร้อมเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์เพื่อเดินหน้าด้วยการใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพบริการตลาดทุน ตอบโจทย์การเป็นแหล่งระดมทุนและลงทุน เพื่อความมั่นคงทางการเงินให้แก่คนไทยในระยะยาว

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งในด้านการเปิดให้คนไทยเข้าถึงบริการคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร โดยเปิดตัวโครงการ "5 ขั้นมั่นใจลงทุน" เพื่อตอบโจทย์ของการดูแลผู้ลงทุนโครงการ "บริษัทเกษียณสุข" ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ส่งเสริมลูกจ้างให้มีเงินใช้หลังเกษียณอย่างเพียงพอผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การออกกฎหมายกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของธุรกิจและคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมส่งเสริมการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยสร้างกลไกเชื่อมโยงการกำกับดูแลกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อดูแลความมั่นคง และป้องกันความเสี่ยงของทั้งระบบ และจัดทำความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อลดความซ้ำซ้อน อำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน

ก.ล.ต. ได้ยกระดับมาตรฐานกำกับดูแลในหลายด้าน อาทิ การออกและเสนอขายตราสารหนี้ การสื่อสารความคาดหวังกับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อสนับสนุนการให้บริการที่ได้มาตรฐานและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า (putting investors first) ส่งผลให้กระบวนการขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งริเริ่มให้ข้อมูลตลาดทุนอยู่ในรูปแบบ machine readable และ open API เพื่อให้มีผู้นำไปวิเคราะห์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริการแก่ผู้ลงทุน ควบคู่กับการส่งเสริมรูปแบบการทำธุรกิจแบบ open architecture เพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์สูงสุดสำหรับผู้ลงทุน

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมเข้ารับการประเมินประสิทธิภาพการกำกับดูแลตลาดทุนเทียบกับมาตรฐานสากลในโครงการ Financial Sector Assessment Program (FSAP) ทำให้มีการปรับปรุงและยกระดับตามมาตรฐานสากลในทางปฏิบัติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการเผยแพร่ผลการประเมินอย่างเป็นทางการในกลางปี 2562 ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีถัดจากนี้ ก.ล.ต. จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยในวงกว้างเข้าถึงคำแนะนำการวางแผนทางการเงินที่มีคุณภาพเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการระดมทุนและสร้างโอกาสให้แก่ภาคธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนรองรับยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ในการกำกับดูแลรองรับโลกอนาคต ก.ล.ต. จะเป็นผู้กำกับดูแลที่ปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และปรับปรุงประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดกับผู้ลงทุนและระบบการเงินได้อย่างทันท่วงที โดยให้ความสำคัญกับการวางรากฐานองค์กรที่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานของบุคลากร ก.ล.ต. และเน้นการวิเคราะห์และใช้เครื่องมือการกำกับดูแลที่หลากหลายที่ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการออกกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว" นายรพี กล่าวสรุป

ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2562 – 2564) ของ ก.ล.ต. ซึ่งได้จัดทำขึ้นโดยการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้เสียในตลาดทุน และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ครอบคลุม 5 เรื่องสำคัญ ได้แก่

(1) สนับสนุนผู้ให้บริการด้านการให้คำแนะนำและวางแผนทางการเงินที่มีคุณภาพและประชาชนวงกว้างเข้าถึงได้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเข้าถึงบริการในการลงทุน ขณะที่ผู้ให้บริการแนะนำจะมีต้นทุนลดลง

(2) สร้างโอกาสในการระดมทุนอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ตลาดทุนเติบโตอย่างยั่งยืน สนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนของภาคธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลที่ดี รวมถึงสนับสนุนกิจการและนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม

แก่เศรษฐกิจและสังคม เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน

(3) สร้างประสิทธิภาพและศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุนไทย โดยการยกระดับกระบวนการและสมรรถนะโครงสร้างพื้นฐานรองรับระบบดิจิทัลเพื่อนำไปสู่บริการที่ดีและสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของตลาดทุนและภาคเศรษฐกิจจริง (real sector)

(4) การกำกับดูแลที่เท่าทันกับโลกอนาคตและลดภาระให้กับภาคเอกชน โดยการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล สร้างกรอบเพื่อติดตามและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับฟินเทค ดำเนินการปฏิรูปกฎเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน

(5) ยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลและการบริหารจัดการองค์กรโดยให้ความสำคัญกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการทำงาน การใช้เครื่องมือการกำกับดูแลที่หลากหลายเพื่อให้สามารถสร้างความสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรในด้านต่าง ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version