ปส. ระดมนักวิชาการเตรียมพร้อมร่วมมือ IAEA หวังผลักดันโครงการวิชาการนิวเคลียร์ใหม่สู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

พฤหัส ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๗:๓๕
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชิญนักวิชาการภาครัฐและเอกชนกว่า 80 คน จาก 28 หน่วยงาน ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาโครงการความร่วมมือเชิงวิชาการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ณ ปส. หวังติดตามการดำเนินงาน สร้างความเข้าใจ และผลักดันโครงการวิชาการนิวเคลียร์ใหม่สู่การพัฒนาเพื่อให้ประเทศและประชาชนได้รับประโยชน์จากความร่วมมืออย่างยั่งยืน

นางรัชดา เหมปฐวี รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นประธานเปิด "การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาโครงการความร่วมมือเชิงวิชาการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ" ณ ห้องประชุมใหญ่ ปส. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ (1) ผลักดันการพัฒนาความร่วมมือเชิงวิชาการด้านนิวเคลียร์และรังสีร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) (2) รายงานความคืบหน้า ปัญหา และอุปสรรคระหว่างการดำเนินโครงการที่ผ่านมา และ (3) สร้างความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการเสนอโครงการวิชาการใหม่ในอนาคต รวมทั้งบทบาทการดำเนินงานโครงการทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ให้แก่ผู้ประสานงานโครงการซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ อาจารย์ และผู้สนใจทำโครงการความร่วมมือเชิงวิชาการด้านนิวเคลียร์และรังสีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 80 คน จาก 28 หน่วยงาน อาทิ หน่วยงานราชการ เอกชน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยทางการแพทย์ และหน่วยงานสนับสนุนด้านอื่น ๆ

นางรัชดา กล่าวว่า หน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทย มีการดำเนินโครงการความร่วมมือเชิงวิชาการด้านนิวเคลียร์และรังสี ร่วมกับ IAEA ผ่านการประสานงานของ ปส. มาเป็นระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกของ IAEA ในปี พ.ศ. 2500 โดยที่ผ่านมาไทยได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยซึ่งมีการนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้พัฒนาประเทศในทางสันติด้านต่าง ๆ มาโดยตลอด อาทิ ด้านการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม อาหารและโภชนาการ และการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น ปส. ในฐานะผู้ประสานงานหลักของประเทศไทยกับ IAEA หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมในครั้งนี้จะสามารถ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ พร้อมทั้งจุดประกายให้นักวิชาการไทยทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมประชุมฯ เกิดแนวความคิดในการนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาในสาขาวิชาต่าง ๆ นำไปสู่การขยายเครือข่ายและบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กรอบความร่วมมือของ IAEA ส่งผลให้ประเทศไทยเกิดการพัฒนาและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๗ ทีทีบี ครองธนาคารไทยคะแนนสูงสุดด้าน ESG ต่อเนื่องปีที่ 6 ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางสู่ การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
๑๓:๔๐ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย
๑๓:๒๕ หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุปวดร้าวลงขา
๑๒:๕๖ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มองเศรษฐกิจโลก 2025 ฟื้นตัว แม้มีปัจจัยเสี่ยง ชี้ตราสารหนี้และหุ้นยังคุ้มค่าท่ามกลางความผันผวน
๑๒:๒๗ Thailand Privilege Card จับมือ ASAVA ปรับโฉมยูนิฟอร์มด้านบริการ ภายใต้คอนเซปต์ GRACE สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยสู่สากล
๑๑:๐๔ เครือสหพัฒน์ จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
๑๑:๒๖ กสิกรไทยส่งบริการมัดใจตลาดเวียดนาม กวาด 2 รางวัลใหญ่ ระดับนานาชาติ สุดยอดบัตรเครดิตใหม่และสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อเอสเอ็มอีออนไลน์
๑๑:๕๙ 'พฤกษา' ตอกย้ำผู้นำด้านอสังหาฯ ผนึกความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัย สู่การสร้างชุมชนสุขภาพดี มอบสิทธิพิเศษ และโครงการดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี
๑๑:๒๓ TFG ติดปีก! ปี 67 กำไรพุ่งแตะ 3,143.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 486.93%
๑๑:๑๖ SO ตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผล 85% ของกำไร หรือ 0.18 บาท/หุ้น กวาดกำไรปี 67 กว่า 153 ล้านบาท