การบรรยายพิเศษของสุรีทิพย์เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ตรงในสายงาน และได้ทราบถึงพฤติกรรมการตัดสินใจและการรับข่าวสารของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ซึ่งเปลี่ยนไป ในยุคที่สื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญ
โดยการบรรยายในครั้งนี้ถ่ายทอดจากความเชี่ยวชาญของสุรีทิพย์ในสายงานด้านการตลาด ด้วยประสบการณ์กว่า ทศวรรษในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคไทยในยุคปัจจุบัน
สุรีทิพย์ยังเผยถึงปัจจัยหลักที่ผลักดันให้นิสสันเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยระดับแนวหน้า ภายใต้การผสานนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Molibity) ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการขับเคลื่อน การขับขี่ และการผสานเทคโนโลยีให้เป็นหนึ่งเดียวกับสังคมในอนาคต เข้ากับกลยุทธ์ด้านการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งมีส่วนสำคัญช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"พฤติกรรมการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก เราพบว่ากว่า 80% ของผู้บริโภคในปัจจุบันตัดสินใจซื้อของผ่านทางออนไลน์ ดังนั้น แบรนด์อย่างนิสสันจึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป" สุรีทิพย์กล่าว "ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค สร้างโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับนิสสัน เราจึงสร้างกลยุทธ์การสื่อสารที่มีความเฉพาะเจาะจง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราต้องการสื่อสารกับผู้ที่เกิดในยุคดิจิทัล หรือ Digital Natives โดยเฉพาะ"
เพราะลูกค้าคือหัวใจสำคัญในทุกสิ่งที่นิสสันทำ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เหนือความคาดหมาย"กลยุทธ์ด้านการสื่อสารช่องทางดิจิทัลของเรา สอดคล้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมของนิสสันซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารกับลูกค้าของเรา ด้วยข้อความที่ใช่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญต้องผ่านช่องทางที่สามารถเข้าถึงพวกเขาอย่างตรงจุด " สุรีทิพย์กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook,Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube