นางสาวพาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ RSP ผู้ได้รับสิทธิในการออกแบบ ผลิต รวมถึงการใช้ตราสินค้าในการขาย จัดจำหน่าย โฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าภายใต้แบรนด์ Converse และ Pony แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ ปี 2562 บริษัทวางเป้ารายได้โต 10% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งในเดือนมี.ค.นี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจค้าปลีกให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
โดยแผนในปี 2562 บริษัทจะเน้นช่องทางการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งปรับการบริหารจัดการภายในให้ดีขึ้น การขายให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการทดลองขายผ่านออนไลน์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกช่องทางที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะการเข้าร่วมแคมเปญต่างๆในเว็บไซต์ Lazada และ Shopee มีผู้เข้ามาชมเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการซื้อสินค้า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น 1-3% ของสัดส่วนรายได้จากการขายรวม รวมทั้งมีแผนเปิด E-Commerce บนเว็บไซต์ของบริษัทเอง คาดว่าจะเริ่มได้ปี 2563 ทั้งนี้จากการขายผ่านออนไลน์ พบว่ามีทิศทางการติบโตสูง โดยได้ดำเนินการจัดโปรโมชั่นและสินค้าพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย คาดสัดส่วนรายได้จากยอดขายออนไลน์ในช่วง 3-5 ปีนี้ จะขึ้นมาอยู่ที่ 10% ได้
ในปีนี้บริษัทฯไม่มุ่งเน้นแผนสาขาใหม่เพิ่มมากนัก โดยแบรนด์ Converse จะเปิดเพิ่ม 5-10 สาขา และแบรนด์ Pony เพิ่มอีกประมาณ 10 สาขา การเปิดสาขาเราไปคู่กับห้างที่เปิดใหม่ โดย ณ สิ้นปี 2561 บริษัทฯ มีสาขารวมกันทั้งสิ้น 194 สาขา แบ่งเป็น Converse 160 สาขา และ Pony 34 สาขา
สำหรับแผนการขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชาในปีนี้ วางแผนขยายสาขาทั้งแบรนด์ Converse และ Pony เพิ่ม 1-2 สาขา ทั้งนี้มองว่าตลาดกัมพูชายังมีโอกาสโตได้อีก ยอดขายต่อสาขาค่อยๆเพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศดีขึ้น ประกอบกับคนรุ่นใหม่ในกัมพูชา นิยมใช้อินเตอร์แบรนด์มากขึ้น ปัจจุบันมีสาขาในประเทศกัมพูชา แบ่งเป็น Converse 4 สาขา และ Pony 2 สาขา ทั้งนี้การเปิดสาขาเพิ่มในประเทศกัมพูชา จะช่วยให้การเข้าถึงสินค้าสะดวกสบายและเพิ่มยอดขายให้ RSP เติบโตตามแผนงานที่วางไว้ ปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 1-2%
ทิศทางบริษัทฯ ในปี 62 เชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีการฟื้นตัวที่ดี คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายจากสาขาเก่าและสาขาใหม่มีการเติบโตขึ้น รวมทั้งการรุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น และการที่บริษัทฯมุ่งเน้นการทำการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์สินค้าให้แข็งแกร่ง มั่นใจยอดขายทั้งปีจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ในปี 2562 บริษัทมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ต่างชาติ เข้ามาจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และกัมพูชา คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งการเพิ่มแบรนด์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากการที่นำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ อย่างน้อยปีละ 1 แบรนด์ เพื่อก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านแฟชั่น
สำหรับผลประกอบการในงวดปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,148.97 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 4.7 % มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157.6 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 30.29 % สาเหตุจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้ออำนวย ทำให้กำลังซื้อลดลงทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และบริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการหยุดประกอบกิจการของบริษัทย่อย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจัดสรรเงินกำไรจากผลประกอบการปี 2561 เพื่อจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 77 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 30 เมษายน 2562 และจ่ายปันผลวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ทั้งนี้สิทธิในการได้รับเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 22 เมษายน 2562 นี้ก่อน