งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 63 นี้ มีผู้เข้าชมงานราว 14,000 ราย จาก 118 ประเทศทั่วโลก โดยจำนวนผู้เข้าชมงานต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับการจัดงานในช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดสั่งซื้อคิดเป็นมูลค่ารวมเกือบ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าสั่งซื้อทันทีวันเจรจาธุรกิจ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 85.2 ขณะที่มูลค่าการสั่งซื้อในวันจำหน่ายปลีกประมาณ 360 ล้านบาท สินค้าที่มีมูลค่า
ซื้อขายภายในงานมากที่สุด ได้แก่ อัญมณี เครื่องประดับแท้ เครื่องประดับเงิน เครื่องจักร และเครื่องประดับทอง ตามลำดับ
สำหรับจุดเด่นของงานบางกอกเจมส์ นอกจากผู้ซื้อและผู้นำเข้าจะได้พบกับสินค้ามีคุณภาพและหลากหลายเจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกงานฝีมือที่เป็นที่ยอมรับ และระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลกแล้ว ภายในงานยังเป็นแหล่งรวมสินค้าใหม่ๆ และคูหานิทรรศการที่นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ The New Faces ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็กจากทั่วภูมิภาคของไทยกว่า 123 ราย จาก 21 จังหวัด อาทิ จันทบุรี ตาก สุโขทัย เชียงใหม่ ลำปาง พิจิตร สุรินทร์ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พังงา โซน The Jewellers และ Innovation and Design Zone (IDZ) แสดงผลงานสร้างสรรค์ของนักออกแบบไทย ซึ่งต่างก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคู่ค้า มียอดมูลค่าสั่งซื้อภายในงานรวมกว่า 120 ล้านบาท
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในเกือบทุกตลอด ปี 2561 อัญมณีและเครื่องประดับไม่รวมทองคำยังไม่ขึ้นรูป มีมูลค่าส่งออก 7,606.45 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.96 โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เครื่องประดับทอง เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับอัญมณีเทียม และเพชร ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง (-1.17%) สหรัฐอเมริกา
(+15.72%) เยอรมณี (+16.24%) อินเดีย (+2.23%) เบลเยียม (+8.19%) ตลาดส่งออกรองที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ กาตาร์ (+103.49%) สิงคโปร์ (+38.92%) เกาหลีใต้ (+36.98%) ลิกเทนสไตล์ (+25.04%) อิสราเอล (+20.61%) เป็นต้น
ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและส่งเสริมด้านการตลาดในหลายด้าน อาทิ การจัดทำกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และสร้างการรับรู้โดยตรงแก่ผู้บริโภค เช่น โครงการ Buy with confidence โดย GIT คู่ขนานไปกับการส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมในต่างประเทศผ่านแคมเปญ "Thailand Magic Hands : the spirit of Jewelry Making" โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการยกระดับงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ Bangkok Gems & Jewelry Fair ซึ่งเป็นเวทีการค้าที่สำคัญสำหรับนักธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้ขายในการต่อยอดธุรกิจในหลากหลายมิติ ทั้งการสรรหาวัตถุดิบ การค้าขาย และการสร้างเครือข่ายพันธมิตร รวมทั้งการขยายช่องทางการขายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น AliExpress และThaitrade.com เป็นต้น
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังมีแผนการเจาะกลุ่ม Super Rich ในตลาดอาเซียน เอเชียใต้และจีน รวมถึงการเจาะกลุ่มผู้ซื้อที่มีความต้องการเฉพาะทาง (Niche) มากขึ้น เช่น เครื่องประดับสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน (Millennials) ในจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยงในประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและสังคมคนโสด เครื่องประดับแนวความเชื่อ โชคลาง เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ หรือ New Faces เพื่อผลักดันให้มีสินค้าที่หลากหลายรูปแบบใหม่ ฝีมือ SMEs ไทยจากทั่วประเทศ ให้มีช่องทางการเข้าสู่เวทีสากลมากยิ่งขึ้น
อนึ่ง งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 64 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน 2562 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานและชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bkkgems.com หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169