ผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ “ยงยุทธ” Disrupt วงการ ฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิม – ตั้งบริษัทสโคป บุกเบิกบริษัทรูปแบบใหม่ในประเทศไทย ที่เชี่ยวชาญการสร้างที่อยู่อาศัยระดับอินเตอร์เนชั่นแนลพรีเมี่ยมโดยเฉพ

พุธ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙ ๑๖:๕๙
จับลูกค้ากลุ่มใหม่ซึ่งเป็นนักท่องโลกที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงสุด ในทุกมิติของการออกแบบ ไม่ใช่เพียงแค่ใช้วัสดุที่ดูหรูหรา

ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงการที่พักอาศัยชื่อดังในประเทศไทยมากมาย ประกาศตั้ง "สโคป" บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยที่มา Disrupt วงการ ฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมที่เคยมีมา ด้วยการมุ่งเน้นเรื่องการออกแบบและก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมี่ยมมาตรฐานระดับโลกโดยเฉพาะ

สโคปจะเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยโครงการแรกในเดือนมิถุนายน 2562 และจะเปิดตัวอีกสองโครงการในอีก 12 เดือนถัดไป คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้น 11,200 ล้านบาท

การก่อตั้งบริษัทสโคปเป็นการบุกเบิกกลุ่มลูกค้าใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยของประเทศไทยที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง โดยสโคปจะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ ที่มีการจัดโครงสร้างองค์กรแบบพิเศษซึ่งแตกต่างไปจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป ทั้งนี้เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีความต้องการต่างไปจากเดิม

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด กล่าวว่า "สโคปเป็น บริษัทที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเจาะจงในเรื่องการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนที่เติบโตในยุคอินเตอร์เน็ต ยุคที่เราสามารถเห็นและเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เป็นสุดยอดบนโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดายผ่านทางเว็บไซต์ หรือเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมามาก และได้เห็นมาหมด เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแต่สิ่งที่ดีที่สุด เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมดีระดับมาตรฐานสากล และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์และคุณภาพการก่อสร้างในมาตรฐานระดับเดียวกันกับที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดีที่สุดในนิวยอร์คหรือลอนดอน"

นายยงยุทธ กล่าวว่า มาตรฐานและความคาดหวังของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสทางการตลาดให้กับ Disruptor ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเฉพาะทาง

นายยงยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ไม่ว่าจะสร้างบ้าน รถยนต์ หรือทำกระเป๋าถือก็ตาม หากเป็นกลุ่มคุณภาพระดับสูงสุด จะต้องมีรูปแบบองค์กรและรูปแบบทางธุรกิจแตกต่างไปจากองค์กรแบบเดิมทั่วไปที่ทำงานตอบสนองหลายกลุ่มหลายระดับ จึงจะสามารถส่งมอบมาตรฐานระดับสูงสุดได้"

"วิธีการคิดคำนวณต้นทุนต้องแตกต่าง แนวคิดของแผนกจัดซื้อก็ต้องแตกต่าง เช่นเดียวกับระยะเวลาในการออกแบบและแนวคิดในการพัฒนาโครงการ เครือข่ายซัพพลายเออร์และคุณสมบัติของผู้รับเหมา รวมทั้งการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้เวลาและใส่ใจกับทุกรายละเอียด และไม่ยอมรับกับความไม่สมบูรณ์แบบใดๆ ก็ตาม ก็จะต้องแตกต่างไปจากเดิมด้วย" นายยงยุทธ กล่าว

"เรากำลังบุกเบิกเปิดตลาดใหม่สำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเฉพาะทาง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดระดับสากล โดยอาศัยรูปแบบการทำธุรกิจ ที่ไม่เหมือนใคร มีโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างไปจากแบบแผนเดิมในบริษัททั่วไป ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถยกระดับมาตรฐานของการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยให้สูงยิ่งขึ้น และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น" นายยงยุทธ กล่าว

"ทุกวันนี้ ผู้บริโภคเปลี่ยนไป ลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ไม่ได้มองความหรูหราว่าเป็นเรื่องของการใช้วัสดุแพงๆ เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ลูกค้ากลุ่มนี้จะมองว่าความหรูหราเป็นเรื่อง 'คุณภาพของกระบวนการความคิด' ที่ใส่เข้าไปในขั้นตอนการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมอย่างเหมาะสม สำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้ ความหรูหราจึงไม่ได้หมายถึงก๊อกน้ำทองคำ หรือที่จับประตูทองคำ แต่สิ่งที่พวกเขามองหาคือสุดยอดดีไซน์ ความเรียบง่ายที่โอ่โถงสะอาดตา ประโยชน์ใช้สอย รสนิยมที่ดี และการใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างสูงสุด เพื่อมุ่งให้เป็นบ้านที่ทำให้ทุกวันของผู้อยู่อาศัยมีความสุขมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่สโคปทุ่มงบประมาณไปที่เรื่องการออกแบบจนมากกว่าเป็นเท่าตัว หากเปรียบเทียบกับสัดส่วนงบประมาณสำหรับงานออกแบบ

ที่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทั่วไปในวงการ จัดสรรไว้สำหรับแต่ละโครงการ"

นายยงยุทธ กล่าวว่า สโคปได้จับมือกับที่ปรึกษาที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมาจากทั้งโคเปนเฮเกน นิวยอร์ค ลอนดอน และมิลาน เป็นต้น

"และแนวทางในการออกแบบอาคารของเรา ยังไม่ยึดติดบรรทัดฐานเดิมๆ อีกด้วย" นายยงยุทธ กล่าว

"ที่สโคป ทุกแผนกจะต้องมานั่งทำงานด้วยกันเพื่อระดมความคิดหาวิธีการที่ดีที่สุดร่วมกัน แทนที่จะให้หลายๆ แผนกต่างคนต่างทำงานแยกกัน ซึ่งรวมถึงแม้แต่ซีอีโอของบริษัท ก็นั่งร่วมประชุมวางผังและออกแบบด้วย และที่สโคป ทีมงานจะทำงานออกมาทีละหนึ่งโครงการเท่านั้น เพื่อให้สามารถทุ่มเทเวลาและความใส่ใจทั้งหมดให้กับทุกรายละเอียดของโครงการนั้นได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะทำหลายๆ โครงการพร้อมกัน" นายยงยุทธ กล่าว

นอกจากนี้ สโคปยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่บริหารอาคารที่บริษัทสร้างขึ้น ให้ยาวนานเป็น 10 ปี

"เราจะให้บริการเรื่องบริหารอาคาร โดยจัดสรรหน่วยงานภายในของบริษัทสโคปเองเป็นผู้ทำหน้าที่ดังกล่าว แทนที่จะใช้วิธีการตั้งบริษัทแยกออกมาใหม่ที่มุ่งหวังผลกำไรให้เป็นผู้ทำหน้าที่นั้น เหมือนอย่างในรูปแบบธุรกิจปกติทั่วไป เพราะเราเชื่อว่าการตั้งโครงสร้างแบบที่เรากำลังทำอยู่นี้ ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตระดับอินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมี่ยม ได้ดีกว่า" นายยงยุทธ กล่าว

นายยงยุทธประเมินว่า "มีความต้องการคอนโดมิเนียมมาตรฐาน 'อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมี่ยม' ประมาณ 6,500 ยูนิตต่อปี ในทุกระดับราคา ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้สำหรับบริษัทสโคป คาดการณ์ว่าลูกค้าของสโคปจะเป็นคนไทยรุ่นใหม่ผู้มีฐานะและรสนิยมที่เป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ประมาณ 80% และเป็นชาวต่างชาติผู้มองหาที่พักอาศัยคุณภาพระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ประมาณ 20%"

นายยงยุทธคาดการณ์ว่า ตลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพระดับสูงสุดในประเทศไทย จะมีมูลค่าถึงประมาณ 78,500 ล้านบาท ในปี 2562 และ "ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ราคาคอนโดมิเนียมระดับคุณภาพสูงสุดในทำเลที่ดีที่สุดในเขตกรุงเทพฯ น่าจะสูงถึง 800,000 บาทต่อตารางเมตร"

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับสูงสุดในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ผู้มีแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยมากมาย เป็นผู้บริหารโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลากหลายระดับและหลากหลายประเภทกว่า 90 โครงการ รวมทั้งเคยเป็นหุ้นส่วนและที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย อาทิ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บมจ. เอสซี แอสเสท บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และ บมจ. พฤกษา

นายยงยุทธก่อตั้งบริษัทสโคปขึ้นมา โดยได้รับการสนับสนุนจาก บมจ. เอสซี แอสเสท ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดห้าอันดับแรกของประเทศไทย มาร่วมก่อตั้งบริษัทสโคป "เพื่อให้ สโคปมีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดสำหรับการทำโครงการที่ดีที่สุดออกมาเสมอ"

"เอสซี แอสเสท กับผมมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เราจึงจับมือกันก่อตั้งบริษัทสโคปขึ้น" นายยงยุทธ กล่าว

โครงการแรกของสโคปจะสร้างขึ้นบนที่ดินทำเลทองใจกลางเมืองขนาด 2 ไร่บนถนนหลังสวน ซึ่งมูลค่าที่ดินในปัจจุบันสูงกว่า 3 ล้านบาทต่อตารางวา โดยมีมูลค่ารวมของโครงการอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท และก่อนสิ้นปี 2563 สโคปมีแผนจะเปิดตัวอีก 2 โครงการที่ย่านทองหล่อและถนนสุขุมวิท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๕ SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)
๑๖:๓๖ บลจ.อีสท์สปริง เปิดขายกองทุนพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น อายุ 6 เดือน มูลค่า 6,000 ล้านบาท 21-28 พ.ย.นี้ ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.90%
๑๖:๒๗ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวทัพยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สะท้อนนิยาม The Art of Cultivated Luxury จัดแสดงครั้งแรกที่ One Bangkok
๑๖:๕๑ 'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' เยี่ยมชมผลงาน DEKOCM SPU เรียน เล่น เล่า ครั้งที่ 2 พร้อมส่งมอบ 7 โมเมนต์แห่งความสุขในกรุงเทพฯ
๑๖:๕๓ ซีพีเอฟ เปิดเวที Feed Sustainovation 2024 เสริมพลังบุคลากรด้วย AI และนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
๑๖:๔๙ ธุรกิจสุกร CPF คิดสร้างสรรค์ Waste No More สานต่อความยั่งยืน พลิกฟื้นคืนของเสีย.สู่ของดีอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๖:๒๖ ซีพีเอฟหนุน ร้านกาแฟเด็กน้อยทำมือ มุ่งสู่อาชีพที่ยั่งยืน ฝีกทักษะนักเรียน รร.บ้านราษฎร์ดำเนิน ชัยภูมิ
๑๖:๐๗ NAM ฐานแน่น! แย้มผลงาน Q4/67 ทรงดี อานิสงส์นโยบายภาครัฐหนุนดีมานด์ผลิตภัณฑ์การแพทย์ ลุยเจาะตลาด B2B-B2C
๑๖:๔๙ Finnomena Funds ชูแคมเปญ 'ของดีฟินโนมีนา' เผยโพยกองทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2567 พร้อมอีเวนต์สุดพิเศษ
๑๖:๔๖ กรมอนามัย ย้ำ ท้องถิ่นเร่งปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หลังพบการปนเปื้อนแบคทีเรีย