นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกล อิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ กล่าวว่า ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,181 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ เป็นเงิน 11 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุนสุทธิ 199 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 70 -75 ซึ่งมากกว่าในช่วงไตรมาส 3/2561 ที่มีกำลังการผลิตเพียงร้อยละ 50 อีกทั้งโครงการเหมืองแม่เมาะ 7 กำลังการผลิตเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่มีการปรับแนวสายพาน (relocated) จำนวน 24 วัน ในไตรมาสที่ 3/2561 ตามแผนการดำเนินงาน ส่วนในงบประมาณปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมปีก่อนที่ 3,185 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 285 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิ 360 ล้านบาทในปี 2560 เนื่องจาก ช่วงต้นปี 2561 บริษัทฯได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดินสไลด์ที่เมืองแม่เมาะ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่สุดของบริษัท ทำให้บริษัทฯ ต้องเปลี่ยนแนวสายพานใหม่ และ ต้องเลื่อนการเปิดใช้ระบบเครื่องจักรใหญ่มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ล่าช้าไปกว่า 6 เดือน และเมื่อเริ่มใช้งานระบบสายพาน ทีมวิศวกรของบริษัทจะต้องปรับแต่งการทำงานของสายพานลำเลียงเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นการดำเนินงานปกติสำหรับการเริ่มใช้งานเครื่องจักรขนาดใหญ่กลางแจ้งที่มีสายการผลิตต่อเนื่องระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ทำให้กำลังการผลิตค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้สร้างรายได้ไม่เพียงพอที่จะมาชดเชยกับค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้รถบรรทุกเล็กทำงานแทนเครื่องจักรใหญ่ในช่วง 6 เดือนดังกล่าว
บริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะมีผลการดำเนินการที่ดี หลังกลับสู่สถานการปกติโดย โครงการแม่เมาะ 8 กำลังเข้าสู่สภาวะสมบูรณ์แบบ โดยคาดว่าจะเร่งกำลังการผลิตจาก 70-75% ในไตรมาส 4 เป็น 100% ภายในไตรมาส 2 นี้ นอกจากนี้ โครงการหงสา มีผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น หลังบริษัทฯเพิ่มเครื่องจักรขนาดเล็ก และ โครงการแม่เมาะ 7 ดำเนินงานปกติ หลังมีการปรับแนวสายพานในปลายปีที่ผ่านมา
" นอกจากปริมาณงาน 34,000 ล้านบาท ที่บริษัทฯ มีอยู่แล้ว และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทกำลังเร่งประมูลโครงการใหม่ๆ โดยล่าสุดได้ยื่นซองประมูลโครงการ Operation and Maintenance Services for Waste Line 2 System และโครงการ Operation and Maintenance Services for Ash Conveyor System ที่เหมืองหงสา สปป.ลาว ในช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโครงการที่มีคู่แข่งน้อยราย และคาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 1 นี้ซึ่งหากบริษัทชนะการประมูล บริษัทฯจะได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากการสร้าง synergy ให้เกิดขึ้นกับโครงการเหมืองหงสาที่มีอยู่เดิมของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมจะยื่นประมูลโครงการอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป ทั้งในโครงการของลูกค้าหลักปัจจุบันและลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทฯอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นยิ่งขึ้น"
บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถเฉพาะด้าน มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเหมืองมากว่า 34 ปี และยังครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 50% พร้อมทั้งยังมีเครื่องจักรใหญ่ที่สามารถตอบสนองกับลักษณะงานเหมืองได้เป็นอย่างดีซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ