DDD ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ฟื้นตัว คาดปี 2562 รายได้โต 15%

อังคาร ๐๕ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๒:๓๒
"ดู เดย์ดรีม" กางแผนธุรกิจปี 2562 คาดโต 15% ตั้งเป้ารายได้แตะ 1,450 ล้านบาทเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รุกตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในประเทศ พร้อมลุยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ฟากธุรกิจต่างประเทศเน้นขยายตลาดในฟิลิปปินส์ ตั้งเป้ารายได้จากฟิลิปปินส์กว่า 100 ล้านบาท

นายสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสเนลไวท์ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 2562 รายได้ฟื้นตัว เติบโต15% คาดรายได้แตะ 1,450 ล้านบาท เผยมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เดิม พร้อมเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่ ได้แก่ แบรนด์ SoS (เอะสึ โอ เอะสึ) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โดยมาพร้อมกับ เซรั่มไฮยาลูรอน ที่มีความเข้มข้น 3 โมเลกุล เพื่อสร้างความชุ่มชื้นล้ำลึกถึงชั้นในสุด

ขณะเดียวกันบริษัทยังวางแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางการขายแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น หลังจากปรับกลยุทธ์ และการสื่อสารให้เข้าถึงร้านค้าและผู้บริโภค โดยเน้นการกระจายสินค้าเข้าไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งบริษัทได้เริ่มเข้าไปทำการตลาดตั้งแต่ไตรมาส 3/61 รวมทั้งยังเพิ่มการสื่อสารกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อจูงใจในการซื้อสินค้า เพราะว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวถือเป็นลูกค้าสำคัญของบริษัท

ถึงแม้ว่าปีนี้กลยุทธ์ของบริษัทจะเน้นรุกตลาดในประเทศเป็นสำคัญ แต่ยังให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นรองลงมา สำหรับตลาดในต่างประเทศ โดยบริษัทจะเน้นการขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากมองว่าจะเป็นมีปัจจัยบวกค่อนข้าง ซึ่งบริษัทได้เริ่มเข้าไปทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงปลายเดือนก.ย. 2561 โดยผลิตภัณฑ์สเนลไวท์ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้คาดว่าในปี 2562 บริษัทจะมีรายได้จากประเทศฟิลิปปินส์จะกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปี 2562 ประมาณ 30-40 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ สำหรับรองรับการเพิ่มไลน์การผลิตให้เพิ่มมากขึ้น และสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ที่นิคมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และบริษัทยังได้อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้ศึกษาความเป็นไปได้ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 รายในปีนี้

"ปีนี้แผนธุรกิจของเรายังคงที่จะเน้นประเทศไทยเป็นหลัก โดยได้เดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปที่ช่องทางการขายแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น และออกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้สามารถรอบรับความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่ต่างประเทศเราก็ยังคงจะเน้นประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งจะเห็นได้จากในช่วงไตรมาส4/61รายได้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศฟิลิปปินส์ และมีการเติบโตอย่างมีสาระสำคัญ" นายสราวุฒิ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version