"วันนี้เราได้น้องๆที่เป็นช้างเผือกเข้าโครงการ 20 คนแล้ว ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เยาวชนที่มีศักยภาพมีทักษะฟุตบอลโดดเด่น และมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะกระบวนการคัดเลือกแต่ละรอบ ต้องผ่านด่านทดสอบอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ทักษะพื้นฐาน เช่น การเดาะบอล เลี้ยงบอล และยิงประตู เป็นต้น และเผชิญกับการทดสอบที่หนักหน่วงกว่าจะมาถึงรอบสุดท้าย โดยมี มร. แดเนียล อินวินซิบิเล่ Academy director True BUFC Academy อดีตนักเตะทีมชาติออสเตรเลียในระดับเยาวชน เป็นหัวหน้าทีมในการทดสอบตามมาตรฐานระดับโลก อีกทั้งยังมี การวัดทัศนคติของเด็กที่มีต่อกีฬาฟุตบอลและความเป็นผู้นำ รวมถึงการทำงานเป็นทีม เพราะการเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จได้ นอกจากเก่งแล้ว ยังต้องมีระเบียบวินัย มีความเป็นทีมเวิร์ค มีจิตใจเข้มแข็งและมุ่งมั่นด้วย"
นายขจรกล่าวว่า เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับทุนเรียนฟรีในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ซึ่งตลอด 6 ปีนี้ จะเป็นการบ่มเพาะทั้งด้านการศึกษาและร่างกายให้แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยมีโค้ชแดนนี่ ร่วมกับโค้ชของโรงเรียนวางแผนการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น โดยถือเป็นสถาบันการศึกษาที่บ่มเพาะนักฟุตบอลฝีเท้าดี ขึ้นมาติดทีมชาติไทยตลอดจนเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้วจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการวางแผนด้านโภชนาการที่เหมาะสมควบคู่ไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือซีพี ที่ส่วนหนึ่งคือการพัฒนาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และการศึกษาที่เท่าเทียม
นายขจรกล่าวว่า โครงการซีพี สานฝันฯรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ที่ผ่านมา มีเยาวชนนักเตะหลายคนสร้างผลงานที่โดดเด่นนำความภาคภูมิใจและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย อาทิ รุ่นที่ 1 จำนวน 6 คน ได้ร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย คว้าแชมป์โลกรายการนอร์เวย์คัพ 2018 และ รุ่นที่ 2 จำนวน 3 คน ได้รับการคัดเลือกเป็นเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และสามารถคว้าแชมป์ในรายการ Toyota International Junior Cup 2018 ที่ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จของน้องๆ ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีและความมุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันต่อไป
"เครือซีพีเชื่อมั่นว่า นักเตะเยาวชนที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ในการพัฒนาฝีเท้าในการเล่นฟุตบอลที่มีมาตรฐานสากล เป็นการเริ่มต้นสร้างความพร้อมของเยาวชน อีกทั้งได้พัฒนาขีดความสามารถในทักษะการเล่นฟุตบอลจากโค้ชมืออาชีพ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในเส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพอาชีพได้เมื่อตอนอายุประมาณ18 ปี ควบคู่ไปกับส่งเสริมด้านวิชาการ เพื่อให้เป็นคนเก่งและดีไปพร้อมกัน"
ดร.วัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า ทางโรงเรียนมีประสบการณ์ในการพัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชนมายาวนาน โดยมีเครือข่ายทั้งที่ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และนอร์เวย์ ที่น้องๆ จะได้เปิดประสบการณ์ประชันฝีเท้าเพื่อเพิ่มศักยภาพ และยังเป็นสถาบันที่บ่มเพาะนักฟุตบอลฝีเท้าดี ขึ้นมาติดทีมชาติไทยตลอดจนเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้วจำนวนมาก เยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 20 คน จะได้รับการดูแลจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งด้านการเรียนควบคู่กับการฝึกฝนทักษะฟุตบอลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านระเบียบวินัย ศีลธรรม หรือการดูแลตัวเอง เพื่อให้เด็กเหล่านี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นนักฟุตบอลที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้อย่างสง่า ไม่เพียงมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ แต่ยังสามารถดูแลครอบครัวได้อีกด้วย เพื่อช่วยพัฒนาประเทศชาติให้ยั่งยืนต่อไป
สำหรับการประกาศผลคัดเลือกเยาวชนเข้าสู่โครงการซีพี สานฝันฯรุ่นที่ 3 รวม 20 คน ในวันที่ 10 มีนาคม 2562 มีผู้บริหารทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เกียรติเข้าร่วมงาน ได้แก่ นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ประธานสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และดร.วัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รวมทั้งผู้สนับสนุนจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ,บริษัท เจียไต๋ จำกัด ,บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ,บริษัท ซีพี รีเทลลิ้งค์ จำกัด, ข้าวตราฉัตร ,บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด,บริษัท มอลเท่น ประเทศไทย จำกัด และบริษัท บูทรูม จำกัด ผู้สนใจสามารถรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cp-dreams.com หรือ เฟสบุ๊ค : ซีพี สานฝัน ปันโอกาส