ก.อุตฯ ผนึก รถยนต์ 12 แบรนด์ “คืนอากาศสะอาดให้ลูกค้าและประชาชน” พร้อมปรับรถยนต์ใหม่ทุกคันเป็น Euro 5 ภายในปี 2564

จันทร์ ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๖:๔๓
กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จับมือรถยนต์ 12 แบรนด์ รวมพลังแสดงเจตจำนงยกระดับมาตรฐาน Euro 5 สำหรับรถยนต์ทุกคันภายในปี 2564 ลดการปล่อยฝุ่นพิษร้อยละ 80 และเตรียมยกระดับเป็น Euro 6 ภายในปี 2565 หวังแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ดร. สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รชอ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ได้กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่วิกฤต และคณะรัฐมนตรีมีมติยกระดับการกำจัดฝุ่นละอองให้เป็นวาระแห่งชาติ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะไอเสียจากรถยนต์ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า Euro 5 ภายในปี 2564 และ Euro 6 ภายในปี 2565 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอนาคต รวมทั้งขอขอบคุณบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้ารถยนต์ทั้ง 12 แบรนด์ แทนประชาชนคนไทยและลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ทุกคน ที่บริษัทได้มุ่งมั่นตั้งใจร่วมผนึกกำลังกับทุกภาคส่วน ในการร่วมกันคืนอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสาธารณชน

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (ผศอ.) เปิดเผยว่า มีบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้ารถยนต์ 12 แบรนด์ ได้แก่ Audi, BMW, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, Mini, MG, Nissan, Suzuki,Toyota และ Volvo ที่ตั้งใจร่วมแสดงเจตจำนงและผนึกกำลังในการยกระดับมาตรฐาน เพื่อคืนอากาศสะอาดให้กับประชาชนไทย รวมถึงเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม นอกจากนี้ ค่ายรถยนต์จะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐาน Euro 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐาน Euro 5 ที่มีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศแล้ว ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM ได้กว่าร้อยละ 20 – 25 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำมัน Euro 5 ในประเทศเพียง 70 ล้านลิตรต่อเดือน ทั้งนี้ภาคการผลิตมีกำลังการผลิตเต็มศักยภาพ (full capacity) ในปัจจุบันสูงถึง 500 ล้านลิตรต่อเดือน

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ลมอ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้มีการบังคับใช้มาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์เทียบเท่า Euro 4 ในปี 2555 ในขณะที่กลุ่มสหภาพยุโรป (European Union : EU) ได้มีการบังคับใช้มาตรฐาน Euro 4 ตั้งแต่ปี 2548 และในปัจจุบันสหภาพยุโรปมีการบังคับใช้มาตรฐาน Euro 6 แล้ว เช่นเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ อาทิ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย รวมถึงจีนและอินเดียที่จะเริ่มบังคับใช้มาตรฐาน Euro 6 ในปี 2563 หากเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยยังคงใช้มาตรฐาน Euro 4 ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลกค่อนข้างมาก ทั้งนี้ สมอ. ได้รับข้อสั่งการให้เร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า Euro 5 ภายในปี 2564 ดังนั้น สมอ. จะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการ เพื่อจัดทำ มอก. การระบายสารมลพิษไอเสียจากเครื่องยนต์ให้แล้วเสร็จและให้มีผลบังคับใช้ภายในปีพ.ศ. 2564 รวมทั้งจะเร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า Euro 6 ภายในปี 2565 ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๔ แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๑๓:๕๐ GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๑๓:๕๗ KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๑๒:๐๐ แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ