กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานแถลงข่าว "การตลาดนำการผลิตสินค้าหม่อนไหมแบบครบวงจร ประจำปีงบประมาณ 2562" นำร่อง 7 จังหวัด เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทยกว่า 30 ล้านบาท

จันทร์ ๑๑ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๕:๑๗
นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังแถลงข่าว"การตลาดนำการผลิตสินค้าหม่อนไหมแบบครบวงจร ประจำปีงบประมาณ 2562" ณ กรมหม่อนไหม ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบาย "การตลาดนำการผลิต" เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้แน่นอนและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยให้หน่วยงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคดำเนินการร่วมกันอย่างบูรณาการ รวมทั้งให้แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจากภาคเอกชนในการประสานข้อมูลความต้องการด้านการตลาด จับคู่กับภาคการผลิตของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อให้สามารถวางแผนการผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด ลดปัญหาทั้งกรณีสินค้าเกษตรล้นตลาดและไม่เพียงพอ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมหม่อนไหมจึงได้มีการสร้างความเข้าใจในนโยบายการตลาดนำการผลิตและขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยเป็นตัวกลางในการประสานจับคู่ด้านการตลาดระหว่างกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการด้านหม่อนไหม นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการสร้างการรับรู้ในเรื่องพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และบุคลากรของกรมหม่อนไหม เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีในการดำเนินการตกลงซื้อขายผลผลิตตามพระราชบัญญัติ ส่งผลให้เกิดประโยชน์แก่งานด้านหม่อนไหมร่วมกันในทุกฝ่าย

ด้าน นางสาวศิริพร บุญชู อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมหม่อนไหมได้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ น่าน พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา และจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีผู้ประกอบการขานรับนำร่องนโยบายการตลาดนำการผลิตดังกล่าว จำนวน 5 บริษัท ใน 4 ชนิดสินค้า ประกอบด้วย (1) สินค้ารังไหม ได้แก่ บริษัท จุลไหมไทย จำกัด และบริษัท ขอนแก่นสาวไหม จำกัด (2) สินค้าหนอนไหม ได้แก่ บริษัท เอ็นทีจีเอส คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (3) สินค้าเส้นไหม ได้แก่ ร้านฅญาบาติก และ (4) สินค้าแผ่นใยไหม ได้แก่ บริษัท ไทยซิลค์ โปรดักส์ จำกัด โดยผู้ประกอบการทั้งหมดดำเนินการทำสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้าในแต่ละชนิดสินค้าอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ในการนำร่องขับเคลื่อนนโยบายการตลาดนำการผลิตสินค้าหม่อนไหมในพื้นที่ 7 จังหวัดในครั้งนี้จำนวน 800 ราย ผลผลิตรวมของทุกชนิดสินค้าหม่อนไหม จำนวน 200 ตัน มูลค่าผลผลิตรวมที่เกิดขึ้นเป็นรายได้ให้กับเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดและของประเทศในภาพรวม รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาลด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ เม.ย. OR จับมือภาครัฐและผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านโครงการ 'ไทยเด็ด' มุ่งเสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
๐๔ เม.ย. เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ 'Help You, Help Me' สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
๐๔ เม.ย. เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว สนับสนุนภารกิจกู้ภัย มอบอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
๐๔ เม.ย. ร้อนๆแบบนี้ มาหมุนให้ฉ่ำ!!สนุกสุดมันส์ไปกับเครื่องเล่น Water Roller ลูกบอลน้ำมหาสนุก
๐๔ เม.ย. ซัมเมอร์นี้ชวนเช็กอินสมุย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวเวลเนส ที่ BDMS Wellness Clinic สาขา Celes Samui
๐๔ เม.ย. โซเชียลจับตา ตึกถล่ม-อาฟเตอร์ช็อก ประเด็นร้อนหลังแผ่นดินไหว
๐๔ เม.ย. กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
๐๔ เม.ย. GoWabi แพลตฟอร์มจองบริการบิวตี้ครบวงจรอันดับ 1 ในไทยเปิดตัวบริการ GoWabi POS พร้อมประกาศรางวัล GoWabi Top Rated
๐๔ เม.ย. ทีทีบี เชิญชวนเที่ยว พิพิธภัณฑ์ครุฑ สืบสานพลังศรัทธา สรงน้ำ สมเด็จมหาราชทรงครุฑ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย
๐๔ เม.ย. บัตรเครดิต ทีทีบี มอบโปรฯ ฟรีอัปเกรด! HUT บุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น จ่ายเพียง 399 บาท