นายจิรวิทย์ รชตะนันทน์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจสุกร และธุรกิจฟาร์ม ซี.พี.เวียดนาม และกลุ่มประเทศ CLMVเปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค ASF และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลเวียดนามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยเฉพาะกรมปศุสัตว์และกรมสัตว์แพทย์ เพื่อสนับสนุนมาตรการควบคุมโรค ASF อย่างเข้มงวด เช่น ห้ามเคลื่อนย้ายสุกรในพื้นที่ที่พบเชื้อและพื้นที่เสี่ยงในรัศมี 3 กิโลเมตรจากจุดที่พบเชื้อ พร้อมทั้งสุ่มเจาะเลือดสุกรในฟาร์มทุกแห่งในบริเวณดังกล่าว การจัดและควบคุมรถขนส่งสุกร อาหารสัตว์ ต้องพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด พ่นปูนขาว หยุดพักรถเพื่อตรวจสอบปลอดเชื้อ 100% ศูนย์จัดจำหน่ายสุกร ต้องมีการตรวจโรคและให้การรับรอง 100% จากหน่วยงานราชการและสัตวแพทย์วิชาการ เป็นต้น
นอกจากมาตรการที่ทั้งภาครัฐและบริษัทร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันโรคแล้ว บริษัทยังได้พบและร่วมือกับคณะทำงานของรัฐบาลทั้งกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ในการรณรงค์ สื่อสาร ทุกช่องทางทั้งทีวี สื่อสิ่งพิมพ์และทางเวปไซด์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคกลับมาบริโภคเนื้อหมูตามปกติ รวมทั้งออกมาตรการเด็ดขาดโดยภาครัฐ ในการดำเนินการกับกลุ่มที่สื่อและส่งต่อภาพข่าวที่ไม่เป็นความจริง น่ากลัว ที่สร้างความตื่นตระหนกต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ ซี.พี.เวียดนาม ยังคงติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นข้อมูลให้กับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ที่เกิดขึ้นในเวียดนาม โดยได้รายงานถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรค ASF ของบริษัทฯ ตั้งแต่มีการประกาศภาวะโรคในจีนเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 จนกระทั่งเวียดนามประกาศพบเชื้อในฟาร์มขนาดเล็ก และให้ความช่วยเหลือด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญโรคดังกล่าว มาให้ความรู้ด้านการป้องกันโรคแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อป้องกันการระบาดของโรคเข้ามาในประเทศ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการควบคุมเข้มงวดในฟาร์มของบริษัทตามมาตรฐานสากลและการป้องกันโรคทางชีวภาพ การให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรคแก่พนักงานบริษัทฯ การจัดสัมมนาให้ความรู้กับลูกค้าอาหารสัตว์มากกว่า 157 ครั้ง และฟาร์มเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศกว่า 767 ครั้ง เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศดำเนินการป้องกันโรคเชิงรุกมากขึ้น ตลอดจนการทำคู่มือ โปสเตอร์ และหนังสือให้ความรู้เรื่องโรค ASF และการป้องกันโรคทางชีวภาพ
"ฟาร์มสุกรของซี.พี.เวียดนาม ทุกแห่งเป็นฟาร์มมาตรฐาน มีระบบการป้องกันโรคและมาตรการจัดการที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถป้องกันโรค ASF ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ตลอดจนถ่ายทอดเทคโนโลยีการป้องกันโรคอย่างเข้มข้นแก่เกษตรกรทั้งของบริษัทเองและเกษตรกรอิสระ" นายจิรวิทย์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้มอบงบประมาณกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อ Test Kit (ASF) และสารเคมีจำเป็น ผ่านกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม สำหรับตรวจวินิจฉัยโรค ASF- REALTIME PCR ซึ่งจะช่วยให้การจัดการปัญหาทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายจิรวิทย์ กล่าวย้ำว่า บริษัทฯ ยังคงทำงานร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลเวียดนาม ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข ในการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องว่าโรคดังกล่าวเกิดเฉพาะในสุกร ไม่ติดต่อสู่มนุษย์และสัตว์อื่น เนื้อหมูสามารถรับประทานได้ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคเวียดนาม.