นายสมคิด เวคินวัฒนเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบการธุรกิจ Security Printing ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือTBSP จากนางสาวสุธิดา มงคลสุธี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท และถือหุ้นใน TBSP จำนวน 17.8% โดยบริษัทจะซื้อหุ้น TBSP จำนวน 2.2 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 13.60 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 29.92 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมี.ค.2562
"การซื้อหุ้นไทยบริติชฯ จากคุณสุธิดา ครั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องมาจาก TKS ประกาศทำคำขอเสนอซื้อหุ้น TBSP เมื่อปี 2561ที่ผ่านมา และมีการคุยกันว่าหากต้องการขายหุ้น ขอให้แจ้งทาง TKS ก่อน ซึ่ง TKS พร้อมที่จะซื้อหุ้นเพิ่ม โดยราคาขายที่ 13.60 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 14 บาทต่อหุ้น และจากการทำแผนขยายงานจากการ Synergy กับไทยบริติชฯ เมื่อปีที่ผ่านมา มีการ Transform กันไปเยอะมาก ปีนี้จะเห็นผลทั้ง 2 ฝ่าย เราจะสร้างผลประกอบการให้ไทยบริติชฯ เติบโตแข็งแกร่งขึ้นไปอีก" นายสมคิด กล่าว
ทั้งนี้ ณ เดือนเม.ย. 61 TKS ถือหุ้นใน TBSP จำนวน 85.52 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 77.74% ซึ่งหลังจากซื้อหุ้นจากคุณสุทธิดา มงคลสุธี เพิ่มอีกจำนวน 2.2 ล้านหุ้น จะทำให้ TKS ถือหุ้นใน TBSP เพิ่มขึ้นเกือบ 80%
สำหรับแหล่งที่มาของเงินลงทุนในครั้งนี้ TKS จะเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นโดยใช้เงินกู้ตามวงเงินกู้ที่ได้รับแต่ยังไม่ได้เบิกใช้จากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด
แนวโน้มความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ โดยมี บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ดิสทริบิวเตอร์ไอทีเบอร์หนึ่งของประเทศไทย เป็นบริษัทลูก ที่ TKS ถือหุ้นอยู่ 38.51% และ บริษัท ไทยบริติชซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) (TBSP) ผู้นำทางด้าน Smart Technology ,Services Provider และ Smart Cards บริษัท ถือหุ้นอยู่ 77.74% จะเสริมความแข็งแกร่งให้ TKS มากยิ่งขึ้น จากผลประกอบการของทั้งสองบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 14% จากปีที่ผ่านมา (ไม่รวมรายได้จาก SYNEX และ TBSP) และปีนี้ TKS จะมีการรับรู้รายได้จาก TBSP เต็มปี จากปีก่อนที่รับรู้รายได้เพียง 9 เดือน รวมถึงงานต่างๆ ที่บริษัทจะได้รับ และ Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 600 ล้านบาท เชื่อว่าจะสนับสนุนรายได้โตตามเป้าที่วางไว้ พร้อมทั้งกำไรสุทธิจะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น