นายณัฐพล วัชรศิริสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอร์สสแควร์ จำกัด (Course Square) ผู้พัฒนาระบบการเรียนออนไลน์ (Online Learning) เปิดเผยว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวระบบโซลูชั่นด้านการเรียนออนไลน์ (Online Learning Solution) อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ 'Course Square Mine' ที่ได้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนา เพื่อตอบโจทย์การเรียนออนไลน์สำหรับสถาบันกวดวิชาในยุคปัจจุบัน กับพฤติกรรมของนักเรียนที่เปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นโซลูชั่นนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของในแต่ละสถาบันได้
"ทั้งนี้จึงทำให้ระบบ Course Square Mine ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตของจำนวนสถาบันมากกว่าเท่าตัวจากการคาดการณ์เดิม ดังนั้นบริษัทฯ ได้พัฒนาต่อยอดความสำเร็จ โดยเพิ่มการบริการที่เรียกว่า Total Online Learning Solution ที่ได้เพิ่มบริการตั้งแต่การปรึกษาให้คำแนะนำก่อนเริ่มระบบเรียนออนไลน์ ไปจนถึงระบบการตลาด การตัดต่อวิดีโอ รวมถึงการดูแลหลังการใช้ระบบจริง นอกจากนี้ยังได้เพิ่มในส่วนของการให้บริการ Secure Video Streaming หรือดูแลระบบความปลอดภัยในการดาวน์โหลดเนื้อหาการสอนออกไปจากระบบของ Course Square Mine" นายณัฐพล วัชรศิริสุข กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 นี้ ยังคงเน้นไปที่การต่อยอดความสำเร็จของCourse Square Mine ที่มุ่งสร้างการเรียนออนไลน์ที่ตอบโจทย์สถาบันกวดวิชาและผู้สอน รวมถึงขยายระบบเข้าไปในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากการเรียนการสอนไม่ได้จำกัดอยู่ที่สถาบันกวดวิชาเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้จากการเพิ่มบริการ Total Online Learning Solutionและความสามารถด้านเทคโนโลยีของบริษัทฯ คาดว่าจะทำให้กลุ่มผู้บริโภค และผู้สอนสามารถเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านเทคโนโลยีที่สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการพัฒนา คิดค้น และปรับปรุงการเรียนรู้ออนไลน์ให้ก้าวทันเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค และผู้สอนมากที่สุด รวมถึงตั้งเป้าให้ Course Square Mine กลายเป็นหนึ่งในระบบการเรียนออนไลน์ที่พัฒนาโดยคนไทยเข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้าอย่างแพร่หลาย และคาดว่าจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของภาพรวมตลาดกวดวิชาอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย) กำลังซื้อของผู้ปกครองในด้านการศึกษาไม่ได้ลดลง และยังให้ความสำคัญ แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้เรียนเปลี่ยนไป ซึ่งผลสำรวจระบุว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตวันละ 10 ชั่วโมง โดยพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยกว่า 28.5% ใช้ไปในการเรียนออนไลน์ โดยสังเกตได้ว่าเทคโนโลยีและสื่อสมัยใหม่มีอิทธิพลต่อการเรียนของคนไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ในต่างประเทศการเรียนออนไลน์ได้รับความนิยมสูงมาก และคาดว่าความนิยมดังกล่าวจะขยายมาในไทยเช่นกัน เนื่องจากการเรียนออนไลน์ผู้เรียนสามารถเรียนในระดับความต้องการของตนเอง หากไม่เข้าใจเนื้อหาสามารถกลับมาเรียนซ้ำได้ รวมถึงความสะดวก เรียนเวลาใดก็ได้ ประหยัดเวลาเดินทาง ปัจจัยเป็นส่วนสำคัญให้ผู้เรียนสนใจเรียนออนไลน์ ดังนั้นแต่ละสถาบันการศึกษาต้องมาคิดค้นและใช้ระบบการเรียนออนไลน์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุด
"จากภาพรวมของการเรียนที่เปลี่ยนไป และมองว่าการเรียนออนไลน์ในไทยอยู่ในช่วงการเรียนรู้ โดยมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี จึงยังเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับคอร์สสแควร์ ที่เรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สอน ผู้เรียน บนระบบของเราจะได้ประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ที่ดีที่สุด จากการบริการที่ครบวงจร โดยเน้นไปยังกลุ่มสถาบันกวดวิชา และจากประสบการณ์ของเราที่ทำงานร่วมกับสถาบันอย่างหลาก จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบออกมาดีที่สุด" นายณัฐพล วัชรศิริสุข กล่าวสรุป