โรงพยาบาลนครธน ปรับโฉม “ศูนย์ผิวหนังและความงาม” มุ่งสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามครบวงจร ในย่านพระราม 2

อังคาร ๑๙ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๕๙
"โรงพยาบาลนครธน" ปรับโฉมศูนย์ผิวหนังและความงาม มุ่งหน้าสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามครบวงจร พร้อมเผยจุดเด่นการให้บริการที่แตกต่างอย่างมืออาชีพ ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการควบคุมกระบวนการรักษาตามมาตรฐานโรงพยาบาล ที่ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ผู้เข้ารับบริการ

พญ. ศิเรมอร ทองสิมา วีระพงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยว่า "ศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลนครธน ไม่เพียงแต่มีความเชี่ยวชาญทางการรักษาโรคผิวหนังเท่านั้น แต่ยังดูแลไปถึงผิวพรรณและรูปร่างอย่างครบวงจร โดยมีแนวคิดในการให้บริการด้วยเทคโนยีที่ทันสมัย ตอบสนองการดูแลผิวพรรณ รวมถึงบริการด้านความงามและเลเซอร์ ด้วยความถูกต้อง ปลอดภัย รวดเร็ว โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางตามมาตรฐานสากล อีกทั้งยังมีบุคลากรที่ได้รับการอบรมทางด้านการแพทย์โดยเฉพาะ คอยให้คำปรึกษารายบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจง ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความสวยงามทางด้านรูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังดูแลใส่ใจไปถึงหลังการรักษา นอกจากนี้ยังมีการควบคุมกระบวนการรักษาตามมาตรฐานโรงพยาบาล เช่น การกำหนดอุณหภูมิห้องเก็บยา การฟอกอากาศภายในห้องขณะทำหัตถการ มีอุปกรณ์ป้องกันแสงเลเซอร์เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ เป็นต้น โดยแบ่งสัดส่วนของห้องต่าง ๆ อย่างชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการ"

พญ. ศิเรมอร ยังได้กล่าวถึงการใช้บริการด้านความงามของคนไทยในปัจจุบันว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก จากเดิมจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 35 ขึ้นไปที่เข้ารับบริการ แต่ปัจจุบัน กลุ่ม Gen Z, Gen X และกลุ่ม Millennials หรือกลุ่มคนที่มีอายุ 23-39 ปี ที่อยู่ในวัยเริ่มทำงาน ให้ความสนใจเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 45 กลุ่มผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คือ ร้อยละ 70 ผู้ชายร้อยละ 30

จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 14 ของคนไทยยอมรับว่าใช้บริการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มทรีตเม้นต์และเลเซอร์ ร้อยละ 10 เท่ากัน นอกจากนี้ ผู้หญิงยังมองว่าปัญหาสำคัญบนใบหน้าที่ต้องได้รับการแก้ไข ได้แก่ ริ้วรอยบริเวณหน้าผากร้อยละ 63 กรามใหญ่ร้อยละ 61 และลดรอยตีนการ้อยละ 45 ดังนั้นแนวโน้มการเติบโตด้านความงามในอนาคตจะเป็นกลุ่มของ Facial Design แก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า ลบเลื้อนริ้วรอย ยกกระชับปรับรูปหน้าเรียว และใบหน้าโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ลง ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตในตลาดความงามของโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้บริการร้อยละ 40-50 จากผู้รับบริการ

"ในปีที่ผ่านมา การเข้ารับบริการด้านความงามของโรงพยาบาลนครธนมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นร้อยละ 16 และคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 15.9 ดังนั้นธุรกิจความงามจึงควรศึกษาพฤติกรรมของผู้เข้าใช้บริการ เพื่อให้สามารถออกแบบการให้บริการได้ตรงกับความต้องการ เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ส่วนมากจะรักษา สิว ฝ้า กระ การปรับสภาพผิวหรือการขัดผิว แต่กลุ่มลูกค้าที่มีอายุในช่วง 19–34 ปี จะให้ความสนใจกับการปรับรูปหน้าเรียว เสริมคาง เสริมจมูก และลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนใสด้วยเลเซอร์

หากเป็นกลุ่มอายุ 35-50 ปี จะนิยมการทำกระชับรูปร่าง การทำโบท็อกซ์ และการกระชับใบหน้าด้วยเลเซอร์ ส่วนกลุ่มที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป นิยมเข้ารับบริการลดริ้วรอยและกระชับใบหน้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าในทุกช่วงวัยนั้นนิยมการลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ด้วยการทำฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และเลเซอร์ นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มอายุ 40-50 ปี ยังเพิ่มความสนใจอื่น ๆ นอกเหนือจากความงามของใบหน้าและรูปร่าง ได้แก่ การทำเลเซอร์เฉพาะจุด Intimalase เพื่อกระชับช่องคลอด รักษาช่องคลอดแห้ง/เจ็บ และป้องกันรักษาโรคปัสสาวะเล็ดด้วย" พญ.ศิเรมอร กล่าวเสริม

สำหรับการให้บริการของศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลนครธน จะให้บริการอย่างครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการ อาทิ การรักษาโรคผิวหนังทุกชนิด ทั้งโรคผื่นผิวหนังอับเสบ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ลมพิษ สะเก็ดเงิน เป็นต้น, บริการ Facial Design ออกแบบและแก้ไขรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบรูปหน้าโดยเฉพาะ, Laser & Treatment บริการเลเซอร์ดูแลรักษาผิว, บริการทรีตเม้นต์เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว และ Fit & Tone ดูแลรูปร่างด้วยเทคโนโลยีการกำจัดไขมันอย่างปลอดภัยและได้ผลจริง

ศูนย์ผิวหนังและความงาม ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 โรงพยาบาลนครธน ถนนพระราม 2 สอบถามข้อมูลการเข้ารับบริการได้ที่ 02 450 9934

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ