จากคำพิพากษาของศาลในกรณีดังกล่าว ถือเป็นชัยชนะของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นข้อพิสูจน์ความเข้มแข็งของกฎหมาย รวมถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการพิจารณาตัดสินคดี ด้วยความโปร่งใสไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกสถานะของผู้กระทำความผิด WWF ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำพิพากษาจะถือเป็นที่สิ้นสุดแม้ในกระบวนการยื่นอุทธรณ์ในศาลชั้นต่อไป
ทั้งนี้ WWF ประเทศไทย ขอแสดงความชื่นชม คุณวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกและคณะเจ้าหน้าที่ สำหรับความกล้าหาญ และการทำงานอย่างสุจริต เที่ยงตรง ที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีนี้ รวมถึงขอแสดงความขอบคุณไปยังหน่วยงานต้นสังกัด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ร่วมต่อสู้และทำงานอย่างมืออาชีพตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี เพื่อนำกรณีนี้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนั้น สถาบันศาลยังได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ว่าเป็นองค์กรสาธารณะที่ใช้อำนาจตุลาการ ในการธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องทางกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ตาม กระบวนการในชั้นอุทธรณ์อาจดำเนินต่อไป และในฐานะองค์กรอนุรักษ์ WWF ประเทศไทย จะยังคงติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดร่วมกับประชาชนชาวไทย เพื่อรอให้คำพิพากษาเป็นที่สุด และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า รวมถึงองค์กร และหน่วยงานที่ทำงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการทำงานอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย
ท้ายที่สุด WWF ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นปรากฎการณ์ที่นักอนุรักษ์ชาวไทย ได้ร่วมแรงร่วมใจผลักดันให้กรณีดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ ด้วยการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทรัพยากรธรรมชาติที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ผลการพิพากษาคดี มิได้ถือเป็นเพียงแค่ชัยชนะ แต่เป็นการทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนประเทศในงานด้านการอนุรักษ์ที่คู่ขนานไปกับการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ในฐานะองค์กรอนุรักษ์ การปกป้องทุกชีวิตบนผืนป่าไทย เป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่จะธำรงรักษารวมทั้งส่งมอบพื้นที่ธรรมชาติอันอุดสมบูรณ์ เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สู่คนรุ่นหลังต่อไป