TPBI ปรับกลุ่มธุรกิจรับเทรนด์บรรจุภัณฑ์ตลาดโลก หลังเสริมแกร่งซื้อกิจการประเทศอังกฤษ เผย Transformation เป็นไปตามแผน

พุธ ๒๐ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๒๒
'บมจ.ทีพีบีไอ' หรือ TPBI เดินหน้าแบ่งกลุ่มธุรกิจใหม่ รับเทรนด์การเปลี่ยนของพฤติกรรมผู้บริโภค ลดใช้ถุงพลาสติกแบบหูหิ้ว ชี้ หลัง Transformation เริ่มเห็นทิศทางบวกจากยอดขายกลุ่มถุงขยะปรับเพิ่มต่อเนื่อง รับแนวโน้มในการใช้ผลิตภัณฑ์ Bioplastic และกระดาษมีมากขึ้น มั่นใจผลการดำเนินงานปี 2562 เริ่มฟื้นตัว หลังเริ่มใช้กำลังการผลิตใหม่โรงงาน Flexible Packaging และเข้าลงทุนบรรจุภัณฑ์กระดาษในกลุ่มบริษัท Intelipac ที่ประเทศอังกฤษและประเทศออสเตรเลียเมื่อปีที่แล้ว ดันภาพรวมรายได้เติบโตในระยะยาว

นายสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีพีบีไอ หรือ TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ จะทำการปรับกลุ่มธุรกิจ (Business Unit) ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ที่มุ่งสู่บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เทรนด์ของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก ณ ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป โดยเบื้องต้นบริษัทฯ จะแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อสร้างความชัดเจนในการดำเนินงาน ดังนี้

(1) กลุ่ม Consumable คือกลุ่ม General Packaging เดิม เช่น ถุงหูหิ้ว ถุงใส่ผักผลไม้ ถุงขยะ บริษัทฯ วางแผนขยายบรรจุภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น ถุงขยะรูปแบบใหม่ บรรจุภัณฑ์สำหรับภาคขนส่ง ถุงใส่อาหาร โดยในกลุ่มนี้มีตลาดหลักอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา นิวซีแลนด์และญี่ปุ่น ปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 62,000 ตันต่อปี

(2) กลุ่ม Flexible ประกอบด้วย กลุ่มฟิล์ม กลุ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่ม Digital Printing โดยเน้นทำตลาดในประเทศไทย เวียดนาม สิงคโปร์และออสเตรเลีย ปัจจุบันมีกำลังการผลิตในกลุ่มฟิล์ม 11,500 ตันต่อปี และกลุ่มบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนอีก 150 ล้านเมตรต่อปี

(3) กลุ่ม Paper ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษ มีโรงงานและตลาดหลักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีกำลังการผลิต 516 ล้านใบต่อปี

และ (4) กลุ่ม Trading เป็นการซื้อ-ขายบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำกัดเฉพาะพลาสติก ในกรณีที่เป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติก บริษัทฯ จะเน้นประเภทที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่าประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยตลาดหลักของกลุ่มธุรกิจนี้จะอยู่ที่อังกฤษ ออสเตรเลีย และวางแผนขยายไปอเมริกา

ทั้งนี้ แผนการขยายธุรกิจในปี 2562 บริษัทฯ จะเน้นการเจาะตลาดในกลุ่มประเทศใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดและเทคโนโลยีใหม่ที่ได้มาจากกลุ่มงาน Global Trading เพื่อขยายฐานลูกค้า และจากแนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ Bioplastic ที่มากขึ้นในปัจจุบัน บริษัทฯ คาดว่าจะส่งผลบวกกับยอดขายกลุ่ม Consumable ซึ่งบริษัทฯ มีเทคโนโลยีที่สามารถผลิต Bioplastic ได้ตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ในส่วนของบรรจุภัณฑ์กระดาษ ก็มีสัญญาณความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เสริมความแข็งแกร่ง ด้วยการเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัท Intelipac ที่ประเทศอังกฤษและประเทศออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษ เพื่อเป็นช่องทางในการเจาะตลาดกลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเน้นการทำตลาดในกลุ่มประเทศเดิมที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่งอยู่แล้ว ทั้งอังกฤษ ออสเตรเลีย อเมริกาและไทย โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจากกลยุทธ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การขยายตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ การเข้าลงทุนใน กลุ่มบริษัท Intelipac ที่ประเทศอังกฤษและประเทศออสเตรเลีย รวมถึงการขยายกำลังการผลิตโรงงาน Flexible Packaging เมื่อปีที่แล้ว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นและเติบโตได้อย่างมั่นคง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TPBI กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์การ Transformation ที่บริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนั้น เริ่มส่งผลบวก โดยเห็นได้จากรายได้ในกลุ่มถุงขยะและถุงใส่ผักผลไม้ในปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,128 ล้านบาท จากเดิมปี 2560 อยู่ที่ 960 ล้านบาท และรายได้ในกลุ่ม Flexible packaging ในปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 734 ล้านบาท จากเดิมปี 2560 ที่ทำได้ 666 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะมุ่งมั่น Transformation ต่อไปเพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

"การจัดกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มจะช่วยให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวและเข้มแข็งในการทำการตลาดมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาการ Transformation เริ่มเห็นผลที่เป็นรูปธรรมจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น บริษัทจะยังคง Transformation ต่อไปเพื่อสร้างการเติบโตที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว" นายสมศักดิ์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย