นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า กองทุนรวมภายใต้การจัดการของบลจ.กสิกรไทย มีกองทุน 5 ดาว จาก Morningstar ในประเภท Overall Rating ถึง 11 กองทุน ประกอบด้วย กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเคเอ คอร์เปอเรท บอนด์ (KACB) กลุ่มกองทุนหุ้นไทย ได้แก่ กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) และกองทุนเปิดเค สตาร์ หุ้นทุน-A ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ (K-STAR-A(R)) กลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นอินเดีย (K-INDX) และกองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A(D)) และกลุ่มกองทุนผสม ได้แก่ กองทุนเปิดเค โกลบอล แอลโลเคชั่น (K-GA) กองทุนเปิดเค แพลน 2 (K-PLAN2) กองทุนเปิดเค แพลน 3 (K-PLAN3) และกองทุนเปิดรวงข้าวดุลทรัพย์ (RKBC) โดยครองแชมป์ บลจ.ที่มี 'กองทุน 5 ดาว' มากที่สุดในอุตสาหกรรม (ที่มา Morningstar ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 62)
"Morningstar เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูล และการวิเคราะห์เกี่ยวกับกองทุนรวมซึ่ง 'กองทุน 5 ดาว' ถือเป็นที่สุดของกองทุนในแต่ละประเภทตามการแบ่งประเภทของมอนิ่งสตาร์ (Morningstar Categories) โดยการจัดอันดับกองทุน (Morningstar Rating) จะพิจารณาจากกองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี เปรียบเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน ผ่านวิธีการคำนวณจาก Morningstar Risk Adjusted Return (MRAR) ซึ่งเป็นวิธีการจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งผู้ลงทุนสามารถพิจารณาผลการจัดอันดับ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น แม้ว่าการจัดอันดับจะเปลี่ยนแปลงไปทุกเดือน แต่กองทุนของบลจ.กสิกรไทย ยังคงติดอันดับ 5 ดาวมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ กองทุน K-PLAN3 และกองทุน K-USXNDQ-A(D) ที่ติดอันดับ 5 ดาวยาวนานที่สุดเป็นระยะเวลา 28 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่ พ.ย. 59 เป็นต้นมา ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการบริหารกองทุน เพื่อสร้างผลการดำเนินที่ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมภายใต้ความผันผวนของตลาดด้วยเช่นกัน" นายวศินกล่าวเพิ่มเติม
นายวศินกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเศรษฐกิจยังเติบโตจากการขับเคลื่อนของการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ ผลประกอบการจดทะเบียนยังขยายตัวได้ดีในอัตรา 5-6% และระดับราคาหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี รวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับ 3.4% ด้านตราสารหนี้ยังมีมุมมองที่ดีในระยะปานกลางถึงยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกว่าประเทศอื่นๆ และเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ การกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนช่วยส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม อย่างไรก็ตามควรติดตามผลการเลือกตั้งของไทยที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศได้รับอานิสงส์จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น นับเป็นปัจจัยหนุนต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นและค่าเงินกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ทั้งนี้ มีมุมมองที่เป็นบวกต่อภูมิภาคเอเชียจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ยังขยายตัวสูงและระดับราคาหุ้นถูกกว่าภูมิภาคอื่น อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามประเด็นการเจรจาเรื่อง Brexit ก่อนกำหนดเส้นตายซึ่งคาดว่าจะเลื่อนออกไปอีก 3 เดือน การชะลอตัวของเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน KACB, KMSRMF, K-STAR-A(R), K-CHINA, K-INDIA, K-INDX, K-USXNDQ-A(D), K-GA, K-PLAN2, K-PLAN3 และ RKBC สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888
กลุ่มกองทุน ชื่อกองทุน ประเภทกองทุน
แบ่งตามมอร์นิ่งสตาร์
กองทุนตราสารหนี้ KACB Short Term Bond
กองทุนหุ้นไทย KMSRMF Equity Small/Mid-Cap
K-STAR-A(R) Equity Large-Cap
กองทุนหุ้นต่างประเทศ K-CHINA China Equity
K-INDIA India Equity
K-INDX India Equity
K-USXNDQ-A(D) US Equity
กองทุนผสม K-GA Global Allocation
K-PLAN2 Conservative Allocation
K-PLAN3 Moderate Allocation
RKBC Moderate Allocation
ที่มา : Overall Morningstar Rating 5 ดาว ณ วันที่ 28 ก.พ. 62
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุน K-CHINA, K-INDIA, K-INDX, K-USXNDQ-A(D) และ K-GA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุน K-PLAN2 และ K-PLAN3 ในสภาวการณ์ปกติ กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในตราสารหนี้ในต่างประเทศ โดยจะปรับมูลค่าการป้องกันความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ แต่จะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินลงทุนในตราสารทุนในต่างประเทศ ดังนั้น ในกรณีที่กองทุนลงทุนในตราสารทุนในต่างประเทศเพียงอย่างเดียว กองทุนจะไม่ทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของจำนวนเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งจำนวน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้