นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อ "โรงไฟฟ้าสยาม พาวเวอร์" ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ในรูปแบบ FIT เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้ยื่นลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายภายใน 120 วัน โดยโครงการดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาก่อสร้างและบริหารจัดการระบบการนำขยะมูลฝอยจากหลุมฝังกลบมาใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าปริมาณ 3 ล้านตัน เป็นเวลา 23 ปี
"บริษัทฯพร้อมลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี มูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยโครงการนี้ได้รับค่าไฟฟ้าในรูปแบบ FIT ราคาหน่วยละ 5.78 บาท คาดอัตราผลตอบแทน EIRR อยู่ที่ 18-23 % ต่อปี ร่วมผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"
ประธานคณะกรรมการบริหาร TPCH กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายในปี 2563 กุมกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าจากขยะกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ โดยในช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา TPCH ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ กทม.มูลค่าราคากลางการลงทุนโครงการละประมาณ 6,700 ล้านบาท เข้าประมูลในนาม บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด ที่บริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 50% และได้เตรียมเครื่องมือทางการเงินไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ TPCH ยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างประเทศ เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมุ่งเน้นไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV เป็นหลัก
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) เผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2561 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561) มีรายได้จากการขายไฟฟ้า 1,560.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 467.45 ล้านบาท หรือ 42.8% เทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้จากการขายไฟฟ้า 1,092.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 354.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.29 ล้านบาท หรือ 71.0% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 207.36 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้ ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ครบทั้ง 6 แห่งเต็มไตรมาส ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE),โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) โรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์
"งบในปี 2561 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร เนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 6 แห่ง บุ๊ครายได้จากการขายไฟเข้าระบบเต็มปี และแนวโน้มในปีนี้คาดว่าจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการที่เราเตรียม COD เพิ่มอีก 3 โครงการ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ กำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตรอบใหม่ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น"
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม-ธันวาคม 2561 ในอัตรา 0.0623 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พ.ค.2562