กระทรวงยุติธรรม และ พีทีที โออาร์ ร่วมสร้างคนดีกลับสู่สังคม ศึกษาช่องทางการสนับสนุนสินค้าและบริการจากผู้กระทำผิดที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรมผ่านธุรกิจของ พีทีที โออาร์

ศุกร์ ๒๒ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๖:๔๑
พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อส่งเสริมการสร้างงานโดยการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ และ/ หรือ บริการ จากผู้กระทำผิดที่อยู่ภายใต้การควบคุม ดูแล ของกระทรวงยุติธรรม ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีที โออาร์ โดยมีนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการ พีทีที โออาร์ และนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พีทีที โออาร์ ให้การต้อนรับ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมได้ ริเริ่มโครงการส่งเสริมการสร้างงาน ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการของผู้กระทำผิดที่อยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลของหน่วยงานด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรม ผ่าน 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งมีภารกิจหลักในการควบคุม แก้ไข ฟื้นฟูและสงเคราะห์ผู้กระทำผิดให้กลับตนเป็นพลเมืองดี ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำ เป็นการสร้างคนดีกลับคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมทักษะอาชีพ/ การสร้างงานโดยการพัฒนาและอุดหนุนผลิตภัณฑ์และบริการของผู้กระทำผิด เพื่อส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดมีงานทำภายหลังพ้นโทษ ให้เกิดการยอมรับจากสังคม รวมถึงเพื่อลดอัตราการกระทำผิดซ้ำของผู้กระทำผิด สามารถคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พีทีที โออาร์ กล่าวว่า พีทีที โออาร์ ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติร่วมกับหน่วยงานภาครัฐตามวิสัยทัศน์ของ พีทีที โออาร์ ที่มุ่งสร้างคุณค่าร่วมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล โดย พีทีที โออาร์ จะศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ในการสนับสนุนสินค้าและบริการของผู้กระทำผิดผ่านธุรกิจของพีทีที โออาร์ อาทิ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น และร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการจำหน่าย และร่วมส่งเสริมทักษะอาชีพ การสร้างงานของผู้กระทำผิด ให้เกิดการพัฒนาด้านพฤตินิสัย และเตรียมความพร้อมให้ผู้กระทำผิดได้มีอาชีพติดตัว นำไปประกอบอาชีพสุจริตต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ โครงการฯ ดังกล่าว มีระยะเวลา 1 ปี ระหว่าง เดือนเมษายน ปี 2562 ถึง เดือนมีนาคม ปี 2563

ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขและฟื้นฟูผู้กระทำผิด พัฒนาให้เกิดทักษะวิชาชีพ อันจะเป็นการยกระดับความรู้ความสามารถของผู้กระทำผิด นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้กระทำผิดและครอบครัวภายหลังพ้นโทษ ช่วยลดปัญหาภาคสังคมของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ