สธ.จัดประชุมบุคคลากรด้านเวชศาสตร์การจราจร เดินหน้าจับมือเครือข่ายแก้ปัญหาการบาดเจ็บ-ตายจากการจราจร

อังคาร ๒๖ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๓:๕๐
ณ หอประชุมอัจฉรา สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมวิชาการประจำปีกรมควบคุมโรค สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทยและมูลนิธิการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เรื่อง "การแก้ปัญหาการบาดเจ็บและตายจากการจราจร : Traffic Safety" ว่า การทำให้ประชาชนไม่เป็นโรคมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงเป็นเรื่องที่สำคัญนอกจากการรักษาที่ได้ผลดีแล้ว ต้องรู้จักป้องกันตัวเองจากโรคภัยต่างๆซึ่งสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทยเป็นสมาคมที่ผลิตผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันหลายสาขา เช่นสาขาสาธารณสุขดูและด้านนโยบายผลักดันด้านสุขภาพทั่วไปสุขภาพจิตชุมชน และที่สำคัญคือเวชศาสตร์ฉุกเฉินหรือเวชศาสตร์การจราจร ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับหนึ่งในสิบประเทศที่มีการเสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด และเป็นประเทศที่ติดอันดับหนึ่งด้านการจราจรที่เสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ สิ่งที่เราจะทำให้ได้คือให้องค์ความรู้แก่พี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือการเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำองค์ความรู้นั้นมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน วันนี้การให้ความรู้ในสาขาใหม่ คือ เวชศาสตร์การจราจรเพื่อให้บุคลากรของเราได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเช่นภาครัฐอื่นๆ เช่น มหาดไทย หรือ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. และภาคเอกชนต่างๆ ตลอดจนพี่น้องในชุมชนได้ร่วมมือกัน หลายคนอาจคิดว่าไม่เป็นอะไร เช่น การดื่มสุราแล้วไปขับรถ หรือการขับรถจักรยานยนต์หรือซ้อนแบบไม่ใส่หมวกกันน็อค เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็มีความเสียหายรุนแรง ปัญหาเหล่านี้พวกเราต้องช่วยกันเพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรให้ได้

ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุขนส่งทางบกในประเทศไทยเป็นปัญหาสำคัญ ที่คร่าชีวิตคนไทย จากข้อมูลการตายที่ได้จากการบูรณาการข้อมูล 3 ฐาน (สาธารณสุข ตำรวจ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด) ปี 2554 เป็นต้นมา พบว่าทุกๆ ชั่วโมง มีคนไทยต้องตายจากการบาดเจ็บทางถนนมากกว่าวันละ 65 คน และจากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงสาธารณสุข พบว่าในแต่ละวันมีผู้บาดเจ็บกว่า 3,600 คน ต้องนอนโรงพยาบาล 400 กว่าคน และพิการปีละกว่า 6,000 คน โดยมีสาเหตุมาจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การดื่มแล้วขับ และการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร

การบาดเจ็บและตายจากการขนส่งทางบกของประชากรมีอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการคาดประมาณแนวโน้มการบาดเจ็บและตายจากอุบัติเหตุทางท้องถนนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เวชศาสตร์การจราจร นับว่ามีความสำคัญเพราะเป็นศาสตร์ว่าด้วยการจัดการปัญหาการบาดเจ็บและตายจากการจราจรที่มีความโดดเด่นที่เกิดขึ้นในเมืองควบคู่ไปกับสภาพทางสังคมไทยที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาข้างต้นนี้ ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการจราจร ควบคู่ไปกับการทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชน

"การประชุมวิชาการครั้งนี้เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขและผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพอันเนื่องจากการจราจร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความรู้และทักษะด้านเวชศาสตร์การจราจรได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาสุขภาพ ลดการบาดเจ็บและทุพลภาพ อันเนื่องมาจากการจราจรในประเทศไทย" นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO