ข้อมูลจากรายงาน The Wealth Report โดย Knight Frank ปี 2019 พบว่า ดัชนีการลงทุนในด้านลักซ์ชัวร์รี่ (Knight Frank's Luxury Investment Index (KFLII)) ที่จัดอันดับ 10 ของสะสมที่คนนิยมลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ไวน์ วิสกี้หายาก งานศิลปะ นาฬิกาหรู เหรียญเงินตรา อัญมณี รถยนต์ แสตมป์ เพชรสี และเฟอร์นิเจอร์คลาสสิค สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 9% ภายในระยะเวลา 12 เดือน ตลอดจนอสังหาริมทรัพยอย่างที่ดิน บ้านหรือคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา
ซึ่งจากความทรงคุณค่าและหายากของโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของแสนสิริที่มีจำนวนยูนิตค่อนข้างจำกัดยิ่งส่งเสริมให้ราคาขายของโครงการพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด อาทิ ราคาขายล่าสุดของบ้านไข่มุกโครงการคอนโดมิเนียมแฟล็กชิพแห่งแรกของแสนสิริที่หัวหิน มีการขายเปลี่ยนมือในราคา 80 ล้านบาท จากราคาขาย 7 ล้านบาท เมื่อเปิดโครงการในปี 2531 หรือเติบโตสูงกว่า 1000% โครงการบ้านแสนสิริสุขุมวิท 67 มีการขายเปลี่ยนมือมูลค่าถึง 120 ล้านบาท จากราคา 35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 243% ในระยะเวลา 15 ปีรวมถึงแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการล่าสุด 98 Wireless ภายใต้ Sansiri Luxury Collection ซึ่งเปิดขายด้วยราคา 550,000 บาท/ตรม. ในวันเปิดโครงการ ปัจจุบันราคาเปลี่ยนมือเพิ่มขึ้นประมาณ 45% ต่อตารางเมตร ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งแสนสิริมั่นใจว่า เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคตเช่นเดียวกับโครงการระดับลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อื่นๆ ของแสนสิริเช่นกัน"
"เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ แตกต่างจากโครงการอื่นในย่านเดียวกัน คือ เอกลักษณ์ที่เกิดจากความเข้าถึงและการให้ความสำคัญกับรสนิยมของผู้อยู่อาศัย เราพบว่า กลุ่มเป้าหมายของโครงการ มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่ลงทุนในความชื่นชอบหรือ Passion Investment รวมถึงกลุ่มลูกหลานของตระกูลเก่าแก่ที่เป็นเจ้าของบ้านหรือที่ดินบนถนนทองหล่อที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่คุ้นเคย ตลอดจนกลุ่ม High Net Worth Individual (HNWIs) ของประเทศไทยและในทวีปเอเชีย ต้องการประสบการณ์การอยู่อาศัยเสมือนบ้านแต่ชื่นชอบความสะดวกสบายในแบบคอนโดมิเนียม ดังนั้นคอนเซ็ปท์ Luxury is space ด้วยยูนิตที่ใหญ่กว่าปกติจึงตอบโจทย์ความต้องการและรสนิยมการอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ย่านทำเลอันทรงคุณค่า ศักยภาพในเรื่องราคาที่ดินบนถนนทองหล่อ โดยจากการวิจัยของพลัส พร็อพเพอร์ตี้พบว่า สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 200% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา มาอยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งอยู่บนหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุด ติดถนนใหญ่บนที่ดินเก่าของโครงการอย่าง H1 แหล่งแฮงก์เอาต์ยอดนิยมในอดีตของตระกูลเก่าแก่ย่านทองหล่อ จึงเป็นที่มีของการเลือกพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ "เดอะ โมนูเมนต์" ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'The Monument to Generations' การส่งต่อทำเลที่มีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงสถาปัตยกรรมอาคารรูปทรง Monolith ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมของตึกระฟ้าจากทั่วโลก ช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและโออ่าและปราศจากเสากั้นบดบังภายใน ส่งเสริมความโดดเด่นด้วยประติมากรรมสระว่ายน้ำดีไซน์ระดับไอคอนิก ตลอดจนงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่หายากและมีอยู่น้อยชิ้นในโลกที่นำมาตกแต่งโครงการ ได้แก่ แชนเดอเลียร์ รังสรรค์โดย LASVIT (ลาสวิท) แบรนด์เครื่องแก้วระดับลักซ์ชัวรี่ที่นิยมในกลุ่มราชวงศ์ ทั่วโลกจากสาธารณรัฐเช็ก ผลงานศิลปะแอนทีคที่ประมูลมาจากทั่วโลกและเครื่องแก้วเคลือบทองจากเกาะมูราโนแห่งเวนิสที่มีเพียง 4 คู่ในโลกเท่านั้น รวมถึงที่เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ โดยจัดวางอย่างลงตัวเข้ากับเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ระดับโลก" นายปิติกล่าวเสริม
Sansiri Luxury Collection (แสนสิริ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็กชั่น) ประกอบด้วย 4 แบรนด์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ และลักซ์ชัวรี่ของแสนสิริที่ได้รับการยอมรับทั้งในเมืองไทยและระดับโลก ได้แก่ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส), BAAN SANSIRI PATTANAKARN (บ้านแสนสิริ พัฒนาการ), THE MONUMENT THONG LO (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ) และ KHUN by yoo (คุณบายยู) จากแนวคิดที่ละเมียดละไมในการนำเสนอโครงการระดับเวิลด์คลาสที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดเปรียบเหมือนงานศิลปะภายใต้ 4 ปรัชญา คือ World-Class/Iconic Design งานดีไซน์ระดับเวิลด์คลาสและระดับไอคอนิก ที่รังสรรค์อย่างตั้งใจเพื่อให้เทียบเท่าอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก, Finest Materials วัสดุในการสรรค์สร้างโครงการอันทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา, Craftsmanship ความประณีตบรรจงดั่งงานศิลป์ในทุกรายละเอียด และ Curated Services การยกระดับการให้บริการไปสู่อีกขั้นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของลูกค้าระดับไฮเอนด์ เตรียมเปิดตัว Sansiri Luxury Collection อย่างยิ่งใหญ่ในไตรมาส 3 ปีนี้ ด้วยการจับมือเหล่าดีไซน์เนอร์ชื่อเสียงระดับโลกมากมายที่ต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะหาตัวจับยาก และเคยฝากผลงานในย่านเรสซิเดนท์และไพรเวท เรสซิเดนท์ ดังทั่วโลกมากมาย มาร่วมรังสรรค์มาซเตอร์พีซพิเศษให้กับยูนิตพิเศษในแต่ละโครงการ อย่าง Mary Fox Linton (แมรี่ ฟอกซ์ ลินตัน), Gert Voorjans (เกิร์ท วอร์จานส์), Lorenzo Castillo (โลเรนโซ คาสติลโญ) Hutton Wilkinson (ฮัตตัน วิลคินสัน) และ Philippe Starck (ฟิลลิปป์ สตาร์ค) เพื่อนำเสนอผลงานแก่ลูกค้าได้ครอบครองและสะสมคอลเล็กชั่นมาสเตอร์พีซอันทรงคุณค่า
เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ยังได้นำเสนอประสบการณ์ผ่านบริการเหนือระดับเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ดูแลลูกบ้านเปรียบเสมือนครอบครัว เข้าใจไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยทีม All Suite Butler ที่ผ่านการอบรมหลักสูตร British Butler Institute เพื่อตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์อย่างรอบด้าน โดย Nai Lert Butler อันประกอบด้วย Director of Living ผู้ดูแลการอยู่อาศัยของลูกบ้าน และ Butler Concierge ผู้อำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน ส่วนบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยย่านทองหล่อ ได้แก่ Navigator/Shuttle บริการรถรับส่งพร้อมคนขับรถ, Mixologist รังสรรค์เครื่องดื่มสุดพิเศษสำหรับลูกบ้าน โดย บาร์เทนเดอร์ชื่อดังจากบาร์ย่านทองหล่อ Romanceologist ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกลิ่นที่จะมาคอยให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างสุนทรียะด้านกลิ่นหอมภายในห้อง Healthologist เทรนเนอร์ดูแลสุขภาพให้คำปรึกษาการใช้เครื่องออกกำลังกาย และ ทีมงาน PLUS Property มีความเชี่ยวชาญในการดูแลลูกบ้านกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ดูแลลูกบ้านระดับลักซ์ชัวรี่กว่า 5 ปี นอกจากนี้ ยังมีบริการรถลีมูซีนสำหรับลูกบ้านที่สามารถเรียกใช้บริการได้แบบเป็นครอบครัว และบริการรับจอดรถยนต์ (Valet Parking)
"วันนี้ โครงการ THE MONUMENT THONGLO พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูต้อนรับลูกบ้านทุกท่านให้ครอบครองกรรมสิทธิ์และย้ายเข้ามาอยู่อาศัย โดยปัจจุบัน โครงการสร้างยอดขายไปแล้วกว่า 40% รวมถึงเพ้นท์เฮ้าส์มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าคุณภาพที่มองหาที่อยู่อาศัยจริงไม่ต่างกับที่ผ่านมาและตั้งเป้าปิดการขายได้ภายใน ปี 2020 อย่างแน่นอน" นายปิติกล่าวสรุป