จระเข้เล็งขยายตลาดสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บุกเปิดสำนักงานหลักที่ลาว หวังเป็นเจ้าตลาดวัสดุก่อสร้าง

พฤหัส ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๐๘
ทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไปได้สวย จระเข้เตรียมบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เปิดสำนักงานหลักที่ลาวเร่งพัฒนาสินค้าและบริการเข้าสู้ ตั้งเป้าตลาดในต่างประเทศ ยอดเติบโตเพิ่ม 15-20%

นายนรวีร์ เศรษฐิน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายสินค้านวัตกรรม เพื่องานก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่ง ตราจระเข้และ ชาละวัน กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดสำนักหลักที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ส่วนการเปิดสำนักงานหลักที่เมืองเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในครั้งนี้ เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาจระเข้ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศนี้ การเปิดสำนักงานก็เพื่อให้กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ สามารถติดต่อประสานงานต่างๆ ได้สะดวกเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจจะมีลักษณะเป็น Representative Office ไม่มีการขายสินค้าหรือดำเนินธุรกรรมทางการเงินผ่านสำนักงานที่ลาว แต่เป็นการซื้อขายผ่านสำนักงานที่ประเทศไทย และขนส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายหลักต่างๆ ที่อยู่ในประเทศลาว ต่อจากนั้นตัวแทนจำหน่ายหลัก ซึ่งมีอยู่ 12 ราย จะเป็นผู้กระจายสินค้าต่อไปยังผู้ค้าช่วงตามจังหวัดต่างๆ ต่อไป

สำหรับตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศลาวนั้น เป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ แบ่งพื้นที่ตามภูมิภาค แต่ธุรกิจโดยรวมยังอยู่แต่ในภาคกลาง เช่น เมืองเวียงจันทร์ ท่าแขก ปากเซ เป็นหลัก เป็นโอกาสให้เกิดการขยายตัวทางธุรกิจ ไปยังภูมิภาคอื่นของประเทศลาวได้ และบริษัทมองเห็นช่องทางดังกล่าว ประกอบกับ แบรนด์จระเข้และชาละวัน เข้ามาเปิดตลาดที่นี่เป็นระยะเวลานานพอสมควร ทำให้เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงในตลาดวัสดุก่อสร้างของลาวอยู่ในอันดับต้นๆ ทั้งนี้การทำตลาดในลาวไม่มีความแตกต่างจากในประเทศไทย เพราะทั้งสองประเทศมีพื้นที่ติดต่อกัน วัฒนธรรมการสื่อสารต่างๆ มีความคล้ายคลึง ไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจทำให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายในต่างประเทศ 10% จากยอดขายรวมของบริษัทฯ และวางเป้าหมายเติบโตขึ้น 15-20% ซึ่งปัจจุบันบริษัท จระเข้เข้าไปทำตลาดในประเทศพม่า ลาว และกัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงการเข้าไปขยายตลาดในประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

"ตลาดวัสดุก่อสร้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเติบโตของ GDP และความต้องการในการพัฒนาประเทศ โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วยประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนามก็เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และมีกำลังซื้อสูง แต่ก็มีนักลงทุนและคู่แข่งเพิ่มเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากประเทศจีน เข้ามา

ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่มีราคาถูก ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ บริษัทฯ จำเป็นต้องพัฒนาทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ได้มาตรฐาน เพื่อครองใจลูกค้าในตลาดต่างประเทศ" นายนรวีร์ กล่าวในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น