นางอารีรัตน์ ศรีประทาย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พาวเวอร์สตาเลียน จำกัด เจ้าของแบรนด์สตาเลียน เปิดเผยว่า ในระหว่างเกือบสองปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่สตาเลียนทุ่มเท ใส่ใจเรื่องยกระดับคุณภาพของตัวสินค้า และตอกย้ำการสร้างแบรนด์ไทยสตาเลียนให้แข็งแรงและยั่งยืน บริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจในแนวทางใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเอง เราเชื่อว่าการเฟ้นหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายมาช่วยกันสร้างแบรนด์ไทยจนสำเร็จในวันนี้ได้เพราะการจะสร้างแบรนด์ไทยให้แข็งแรง เติบโตจนทำให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศยอมรับ จึงจำเป็นต้องสร้างระบบการทำงานที่รวมเอาผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายด้านมาร่วมเดินทางไปด้วยกันกับเราและสร้างโมเดลที่ก่อให้เกิดประโยชน์แบบ win win กันทุกฝ่าย หากย้อนกลับไปสตาเลียนในปัจจุบันกับที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากว่าได้รับความร่วมมือร่วมใจจากธุรกิจหลายภาคส่วนที่มาเกื้อหนุนซึ่งกันและกันจนทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนตัวได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนมากกว่าการทำทุกสิ่งด้วยตัวเองเพียงลำพัง
สำหรับนโยบายการตลาด บริษัทฯเน้นการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจมากขึ้นและเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณการผลิต หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า "ทำน้อยอย่างแต่ได้ประสิทธิภาพดีเลิศ" โดยเราจะใช้สินค้าเป็นตัวขับเคลื่อนเป็นหลัก มุ่งมั่น พัฒนาและผลิตสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่องให้คุณภาพสินค้าเป็นข้อพิสูจน์ โดยการใช้การตลาดแบบสร้างความสัมพันธ์และการบริการให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีกับสตาเลียน ปัจจุบันสตาเลียนเน้นการดูแลฐานลูกค้าเก่าและจัดกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากที่สุด ครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้งของแบรนด์สตาเลียน ที่จะต้องเฝ้าดูกลไกการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่รวดเร็ว ดังนั้นการนำยุทธศาสตร์แห่งความร่วมมือจะเป็นปัจจัยทำให้แบรนด์สตาเลียนเติบโตและแข็งแกร่งได้ เราเชื่อว่าการเป็นแบรนด์เล็กจะสามารถพกพาความคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลงยุคปัจจุบันได้รวดเร็ว ปัจจุบันบริษัทฯตั้งเป้ายอดขาย New Makina 250 SP มอเตอร์ไซค์สายวินเทจสัญชาติไทยตัวนี้จนถึงสิ้นปี อยู่ที่ 4000 คัน คิดเป็นมูลค่ายอดขายประมาณ 300 ล้านบาท โดยบริษัทฯให้ความสำคัญกับคุณภาพความพึงพอใจมากกว่าปริมาณยอดขาย ส่วนเรื่องของแบรนด์ดิ้งเราเน้นการสื่อสารความชัดเจนของตัวแบรนด์สตาเลียนกับการเป็นผู้นำเทรนด์รถสไตล์คลาสสิค สไตล์วินเทจ และสปอร์ตคาเฟ่เรซเซอร์ซึ่งเป็นเจ้าแรกของแบรนด์ไทยในราคาที่จับต้องได้เพื่อผลิตสินค้าขายให้คนไทยได้ใช้ในราคาไม่สูง และสามารถส่งออกขายในต่างประเทศในราคาตลาดโลก เพราะเราเชื่อในฝีมือคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ในส่วนนโยบายการขาย การบริการหลัง การขายรวมถึงอะไหล่การเปลี่ยนแปลงหลักๆ เราเพิ่มเครือข่ายการขายผ่านผู้ที่มีใจรักและหลงใหลรถสไตล์คลาสสิคเพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้กับแบรนด์ นอกจากช่องทางการขายผ่านทางดีลเลอร์ตามปกติแล้ว เราได้สร้างความแตกต่างจากที่เคยทำมาคือการขายผ่านช่องทางใหม่ที่เราเรียกว่า "กลุ่มอินดี้เอเจ้นท์" ที่จะกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนตั้งแต่การขาย การแต่ง การซ่อม และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า อินดี้เอเจ้นท์ คือร้านสำนักแต่งที่เจ้าของร้านทำเองมีความหลงใหลเปิดร้านสำนักแต่ง คัสตอม ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสำนักแต่งขายอะไหล่และซ่อมรถที่มีสไตล์ชื่นชอบการขับขี่รถในแนวนี้ โดยอินดี้เอเจ้นท์ชุดแรกเป็นรุ่นก่อตั้งมีจำนวน 7 แห่ง และขณะนี้ได้เปิดรับเฟส 2 ขึ้นมาอีก 10 แห่ง รวมเป็น 17 แห่ง และจะเปิดเฟสต่อๆไปในอนาคต ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ร้านเล็กๆ ที่มีความสามารถและตั้งใจเปิดธุรกิจในสิ่งที่รัก ได้รับการสนับสนุนจากสตาเลียนก่อให้เกิดธุรกิจที่งดงาม
นอกจากตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ กลุ่มอินดี้เอเจ้นท์แล้ว มีช่องทางเสริมในส่วนของการขายผ่านออนไลน์ในรูปแบบเช่าซื้อที่สมบูรณ์แบบ คือการเช่าซื้อออนไลน์ ยูลีส เริ่มต้นมาจากการร่วมมือกับกลุ่มสตาร์ทอัพ ( Start Up) ที่จะเป็นตัวกลางรองรับลูกค้าเข้ามาเจอดีลเลอร์และเหล่าร้านอินดี้เอเจ้นท์ได้ง่ายขึ้น ทางยูลิสได้ทดลองเปิดบริการมาแล้ว 2 เดือน นับว่าได้รับกระแสการตอบรับที่ดี ส่วนนโยบายหลังการขายบริษัทฯเน้นในเรื่องของการส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้าให้ดีที่สุดโดยมีนโยบายหลักๆ คือ 1. ผ่านระบบสาย Stallions Hot line สายด่วน เบอร์โทร 099-505-3113 และ 095-090-7779 หรือ ID Line powerservice1 2. ระบบรับรถ กรณีรถเสียฉุกเฉินจะไปถึงลูกค้าและรับรถลูกค้าภายใน 24 ขม. ในกรุงเทพฯและปริมณฑล กรณีต่างจังหวัดหากเป็นพื้นที่ที่ไม่มีตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ หรือกลุ่มอินดี้เอเจ้นท์ จะใช้เวลาไม่เกิน 48 ชม. / 2 วัน เป็นอย่างช้า 3. เปิดระบบขายอะไหล่ผ่านช่องทางยูลีสเพิ่มอีกช่องทาง ดีลเลอร์ และลูกค้าสามารถเข้าไปสั่งซื้อ และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตัวเองพร้อมด้วยระบบการจัดส่งที่รวดเร็วด้วยช่องทางพิเศษ โดยเริ่มต้นจากรุ่น Makina 250 (2018) และ Makina 250 (2019) จะเปิดใช้ต้นเดือน พฤษภาคม 2562 นี้
นางอารีรัตน์ กล่าวเสริมว่า เราเชื่อว่าเครือข่ายการทำงานที่ครอบคลุมนี้จะทำให้บริษัทฯสามารถบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และหวังว่า New Makina 250 SP มอเตอร์ไซค์สายวินเทจสัญชาติไทยแท้จาก สตาเลียนจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของลูกค้าตลอดกาล รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งจะเป็นธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ยังได้รับการติดต่อทาบทามให้เป็นฐานการผลิตและร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลายๆ แบรนด์ อาทิเช่น แบรนด์ Edison ก่อกำเนิดจากเด็กกลุ่มสตาร์ทอัพไทยที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (R&D) นำมาโชว์ภายในบูธสตาเลียนเช่นกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่า แบรนด์สตาเลียนจะมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างแบรนด์ไทยให้ก้าวไกลแข็งแรงและยั่งยืนสู่การเป็น "Global Brand" ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับผู้สนใจ Makina 250 SP เพียงแค่แวะมาร่วมกิจกรรม คุณอาจได้รับทดลองขับฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี จำนวน 5 รางวัล หรือผู้สนใจจองรถหรือออกรถภายในงาน รับเงื่อนไขฟรีดาวน์ พร้อม Care Free 5 ปี จะได้พบกับแคมเปญพิเศษมากมายภายในบูธ สนใจสอบถามที่บูธ สตาเลียน เลขที่ D6 ชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้านหน้าประตู 2 (ประตูทางเข้าโซนมอเตอร์ไซค์) ระหว่างวันนี้ – 7 เมษายน 2562
จุดเด่นของ Makina 250 SP
1. ดีไซน์มีเอกลักษณ์โดดเด่นในรถสายสปอร์ตคลาสสิค Cafe racer ให้อารมณ์ความคลาสสิคที่มีเสน่ห์และเท่ ในราคาที่คนไทยจับต้องได้และคุ้มค่า
2. งานวิศวกรรมการผลิต นำทีมโดยคุณเขมทัติ สุคนธสิงห์ ประธานบริษัท สิขร จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการมายาวนาน ได้ออกแบบดีไซน์ และจดสิทธิบัตร เฟรมตัวถังเปลคู่สเปค High GIS Standard ที่ใช้กับรถมอเตอร์ไซด์ ในแบรนด์ญี่ปุ่น ทำให้ Makina รุ่นนี้ มีความแข็งแรงทนทาน และน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 5 กิโลกรัม นับเป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย และยังเป็นผู้กำหนดมาตรฐานชิ้นส่วนรถในรถรุ่นนี้ทั้งหมด
3. งานชิ้นส่วนคุณภาพฝีมือคนไทยจากซัพพลายเออร์ไทยหลายๆ ค่าย ที่เป็นผู้ผลิต OEM ให้กับแบรนด์หลักๆ ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์
4. งานประกอบ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์งานประกอบรถยนต์มายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ Makina 250 SP นี้มีสัดส่วน Local parts ของการผลิตสูงถึง 65% นั่นหมายถึงคุณภาพที่มั่นใจได้กว่าเดิม เพราะประเทศไทยเป็นสุดยอดของผู้ผลิต parts ระดับโลก ถือได้ว่าการกำเนิดของ Makina 250 SP ครั้งนี้มาจากการร่วมมือร่วมใจจากหลายภาคส่วน และพวกเราจะผลักดันให้สินค้าตัวนี้สามารถออกสู่สายตาตลาดโลกได้ในที่สุด