กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอแนะนักลงทุนไทยบุกรัสเซีย ชี้เป็นตลาดขนาดใหญ่มีปัจจัยสนับสนุนพร้อมทั้ง ทรัพยากรธรรมชาติและ วัตถุดิบ แร่ธาตุ นำร่องดันกิจการสิ่งทอ รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ โรงแรม ร้านอาหาร และสปาของไทยเข้าลงทุน
นายวิทยา ไพรสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าจากการเดินทางศึกษาลู่ทางและชักจูงการลงทุนในสหพันธรัฐรัสเซียในช่วงเดือนกรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมา พบว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงที่จะเป็นแหล่งรองรับการลงทุนจากประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเบาซึ่งยังมีไม่มากนัก เนื่องจากประเทศที่เคยเป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมในยุคของสหภาพโซเวียต เช่น ยูเครน เบราลุส คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ได้แยกเป็นประเทศอิสระ ทำให้ศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมบางอุตสาหกรรมของรัสเซียลดลง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสการลงทุนของอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอ ตัดเย็บเสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ รวมถึง อุตสาหกรรมบริการ เช่น โรงแรม สปา ร้านอาหาร จึงนับเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะขยายธุรกิจไปลงทุนสร้างฐานการผลิตในรัสเซียได้
ทั้งนี้ จากการศึกษาในเบื้องต้นพบว่า รัสเซียมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ป่าไม้ และแร่ธาตุ มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจากการผลิตและส่งออกน้ำมันสูงที่สุดอันดับ 2 ของโลกรองมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย อุตสาหกรรมในประเทศรัสเซียส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมหนักและใช้เทคโนโลยีสูง เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โทรคมนาคม อุปกรณ์ก่อสร้าง พลังงานทดแทน
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า บีโอไอจะเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างนักธุรกิจไทยกับหน่วยงานภาครัฐของรัสเซีย เช่น Russian Union of Industrialists & Entrepreneurs (RUIE) ซึ่งเป็นองค์กรของรัสเซียที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาอุตสาหกรรมการผลิตรวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายกับผู้ประกอบการรัสเซีย เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจร่วมกันระหว่างไทย-รัสเซีย พร้อมนำเทคโนโลยีขั้นสูงด้านการวิจัยพัฒนาซึ่งเป็นจุดแข็งของรัสเซีย มาเสริมศักยภาพภาคการผลิตของไทยอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับภาพรวมการลงทุนจากต่างประเทศในรัสเซีย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 มีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในรัสเซียคิดเป็นมูลค่าประมาณ 90,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 3.6ล้านล้านบาท) นักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุด คือ ไซปรัส รองลงมาได้แก่ ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ ส่วนเกาหลีใต้ เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของเอเชียในรัสเซีย เช่น ซัมซุง ฮุนได และแอลจี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในประเทศรัสเซียยังคงมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง เช่น ความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากยังไม่มีความตกลงการคุ้มครองด้านการลงทุนและการยกเว้นภาษีซ้อน ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารที่ยังใช้ภาษารัสเซียเป็นหลัก