นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่าน Omni Channel เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายใหม่ บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางค์ เพื่อร่วมมือกันพัฒนาสินค้าและขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม (Beauty Product) ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต นอกจากนี้ GIFT ยังต้องการเข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทฯ โดยเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.แกรททิทูด อินฟินิท มีมติอนุมัติซื้อหุ้น TVD คิดเป็นสัดส่วน 4.86% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นต่อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจากญี่ปุ่น 2 ราย
ความร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นการนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายที่สามารถส่งเสริมซึ่งกันและกันมาใช้ต่อยอดขยายธุรกิจ โดย TVD มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนทำการตลาด การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการใช้สินค้าของผู้บริโภค ส่วน GIFT ก็เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางค์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวว่า บริษัทฯ จะร่วมมือกับ GIFT พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสำหรับผิวหน้า และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสำหรับผิวกาย โดยคาดว่าในปีนี้จะมีสินค้าที่ออกวางจำหน่ายภายใต้ความร่วมมือระหว่างกัน รวมประมาณ 15 – 16 รายการ เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับกลาง ราคาขายชิ้นละประมาณ 800 – 1,200 บาท ปัจจุบันมีสินค้าที่เริ่มจำหน่ายและอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเตรียมออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ รวมทั้งสิ้น 9 รายการ ภายใต้แบรนด์ Nuvite สินค้าที่เป็นไฮไลท์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ BOTOLite เพื่อบำรุงและยกกระชับผิวหน้า, ผลิตภัณฑ์ Astra Facial Cream สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสาหร่ายสายพันธุ์พิเศษจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อช่วยชะลอริ้วรอย ฯลฯ
ส่วนการเสนอขายสินค้าและทำการตลาดจะเน้นรูปแบบบีโลว์ เดอะ ไลน์ (Below The Line) ซึ่งไม่ได้เน้นการโฆษณาบนสื่อหลักทางทีวี วิทยุและสิ่งพิมพ์ แต่จะเน้นการแนะนำสินค้าผ่านช่องทางคอลล์ เซ็นเตอร์ ของบริษัทฯ โดยมีแผนจัดตั้งทีม GIFT Call Center เพื่อทำหน้าที่เจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและให้ข้อมูลสินค้าที่น่าสนใจแก่ผู้บริโภค รวมถึงการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และสื่อโซเชียล มีเดียชั้นนำต่างๆ เพื่อหวังผลด้านยอดขายสินค้า
"กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ขณะที่ภาพรวมตลาดในปัจจุบันพบว่าผู้บริโภคคลายความกังวลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและกลับมาเลือกซื้อสินค้านทางออนไลน์เป็นปกติแล้ว เราจึงต้องการเพิ่มยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) เกือบ 10% ของรายได้รวม แต่จากความร่วมมือกับ GIFT และซัพพลายเออร์รายอื่นๆ พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้จะมีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของรายได้รวม และเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 40% ของรายได้รวมในอีก 3 ปีข้างหน้า" นายทรงพล กล่าว