เช่นเดียวกันกับยางทั้งหมดที่พัฒนาโดยมิชลินภายใต้ความร่วมมือกับเฟอร์รารี่ ทั้งสองบริษัทมีการใช้เครื่องจำลองการขับขี่เพื่อการทดสอบอย่างเข้มข้น นักทดลองขับของเฟอร์รารี่ทำงานทั้งแบบคู่ขนานและเคียงข้างกับวิศวกรของมิชลินโดยใช้โปรแกรม Michelin TameTire(R) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์จำลองยางรถยนต์ที่พัฒนาโดยมิชลิน ช่วยให้นักทดลองขับได้ทดลองยางแบบเสมือนจริงก่อนทดสอบขับขี่จริงบนสนามแข่ง
มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ ใหม่ใช้ส่วนผสมหน้ายางที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถสปอร์ต ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งเชิงโครงสร้างของยาง วิศวกรของมิชลินได้สร้างส่วนผสมที่ให้การยึดเกาะเพิ่มเติมซึ่งเป็นผลมาจากรูปแบบของหน้ายางแบบเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้คือการสัมผัสกับพื้นผิวเพิ่มสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และการยึดเกาะโดยรวมเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 ที่ติดตั้งมากับรถยนต์
ปิแอร์ ชาปูต์ (Pierre Chaput) วิศวกรผู้รับผิดชอบในการพัฒนายางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์สำหรับเฟอร์รารี่ 488 พิสตา กล่าวว่า "ความท้าทายคือการเพิ่มขีดความสามารถในการยึดเกาะของ 488 พิสตาให้ยิ่งสูงกว่าเดิม ด้วยยางไพลอต สปอร์ต คัพ 2 รุ่น "อาร์" เราจึงได้ประสิทธิภาพเวลาต่อรอบที่เร็วขึ้นขณะเดียวกันยังคงให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่และการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นคุณลักษณะของเฟอร์รารี่ 488 พิสตา"
ตั้งแต่ มีนาคม 2562 เป็นต้นไป เฟอร์รารี่จะเริ่มวางจำหน่ายยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับ 488 พิสตา โดยยางมีจะมีขนาดดังต่อไปนี้
- ยางหน้า: 245 / 35ZR20 (95Y) PS CUP2 R K1
- ยางหลัง: 305 / 30ZR20 (103Y) PS CUP2 R K1
* เครื่องหมาย K1 หรือ K2 บ่งชี้ว่ายางมิชลินได้รับการออกแบบมาสำหรับเฟอร์รารี่โดยเฉพาะ
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 117,400 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิต 121 แห่งใน 17 ประเทศ ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2560 ทั้งนี้ กลุ่มมิชลินได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th