เมดโทรนิค และ โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมลงนามความร่วมมือกรอบกลยุทธ์ในการพัฒนาความก้าวหน้าด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์

อังคาร ๐๙ เมษายน ๒๐๑๙ ๑๖:๐๖
บริษัท เมดโทรนิค จำกัด (มหาชน) (NYSE:MDT) ผู้นำด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ระดับโลกได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่ให้บริการดูแลรักษาโรคในระดับตติยภูมิที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและในระดับโลกภายใต้กรอบความร่วมมือด้านกลยุทธ์เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และการนำเอานโยบายการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (Value-Based Healthcare - VBHC) และผลการรักษาทางคลินิกมาใช้ในเชิงปฏิบัติซึ่งจะเริ่มต้นที่โปรแกรมลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในผู้ป่วยที่ติดตั้งอุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝังเข้าไปในร่างกายด้วยถุงหุ้มป้องกันการติดเชื้อ

บันทึกความเข้าใจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงความร่วมมือด้านศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมการวิจัยและการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (VBHC) ในประเทศไทย โดยกรอบความร่วมมือด้านกลยุทธ์นี้จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้ป่วยและบุคคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงการพัฒนาประสิทธิภาพทางคลินิกและการศึกษา ทั้งนี้ยังสร้างรากฐานสำหรับการนำแนวนโยบายดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (VBHC) ไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเมดโทรนิคสนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดีในการยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพไปอีกขั้นด้วยการพัฒนาในการรักษาเพื่อผลการรักษาทางคลินิกที่ดีขึ้น และเพิ่มการเข้าถึงนวัตกรรมทางการรักษาที่ทันสมัยมากขึ้น

หัวใจหลักของความร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างเมดโทรนิคกับศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ (The Medical Innovations Development Center :MIND Center) ของโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อร่วมมือกันในการเร่งสร้างนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและการคิดค้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทย ซึ่งโรงพยาบาลรามาธิบดีมีความพร้อมและมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ การวิจัยทางคลินิคข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพจากระบบการรักษาจริงและหลักฐานเชิงประจักษ์รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมและการศึกษาทางการแพทย์ในระดับประเทศและภูมิภาค

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการพัฒนาแนวนโยบายการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่าผลการรักษาทางคลินิกมาใช้ในเชิงปฏิบัติโดยเริ่มที่โปรแกรมลดความเสี่ยงของการติดเชื้อของผู้ป่วยหลังใส่อุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝังเข้าไปในร่างกายด้วยถุงหุ้มป้องกันการติดเชื้อระหว่างเมดโทรนิคกับโรงพยาบาลรามาธิบดียังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลการรักษาทางคลินิคด้วยอุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝัง มีผลการวิจัยจาก Worldwide Randomized Antibiotic Envelope Infection Prevention Trial (WRAP-IT) ซึ่งตีพิมพ์ใน The New England Journal of Medicine1 แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยอุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝัง (CIEDs) และใช้ถุงลดการติดเชื้อเคลือบยาปฏิชีวนะแบบย่อยสลายได้เอง (Absorbable Antibacterial Envelope) สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้สูงถึง 40 เปอร์เซนต์ และลดการติดเชื้อใต้ผิวหนังบริเวณที่ฝังเครื่อง (Pocket Infection) ได้มากถึง 61 เปอร์เซนต์ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่รักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวะนะตามการรักษาแบบมาตรฐาน จากโปรแกรมดังกล่าว ผู้ป่วยที่ใช้อุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝังของเมดโทรนิคแล้วเกิดการติดเชื้อภายหลังจากการติดตั้งอุปกรณ์ภายในระยะเวลา 12 เดือน ทางบริษัทฯ จะทำการเปลี่ยนอุปกรณ์กระตุ้นไฟฟ้าหัวใจชนิดฝัง ถุงลดการติดเชื้อเคลือบยาปฏิชีวนะแบบย่อยสลายได้เอง สายนำไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อจริง

ระบบสาธารณสุขและระบบดูแลสุขภาพกำลังเผชิญความท้าทายอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงการบริหารงบประมาณด้านสุขภาพจนถึงปัญหาการเข้าถึงการรักษา ทั้งนี้ผู้ให้บริการและผู้บริหารงบประมาณต่างพบปัญหาในการพัฒนาการให้บริการเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้นในขณะที่ต้นทุนโดยรวมต้องไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ความท้าทายของประเทศไทยด้านการให้บริการด้านสาธารณสุขของบุคคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐคือ ความต้องการในการรับบริการที่สูงขึ้น งบประมาณด้านสุขภาพถูกจำกัด กระบวนการให้บริการที่ไม่มีประสิทธิภาพ และระยะเวลาที่ยาวนานของผู้ป่วยที่รอรับการรักษา เมดโทรนิคและโรงพยาบาลรามาธิบดีจึงร่วมกันเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการที่มีประสิทธิภาพโดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ หรือช่วยลดค่าใช้จ่ายค่ด้านสุขภาพลง ในขณะที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้มากยิ่งขึ้น

"คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีของเรา มุ่งเน้นการผลักดันนวัตกรรมทางการแพทย์และรูปแบบการให้บริการการรักษาสุขภาพที่มีคุณค่าทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ผู้ป่วยของเรา ด้วยความร่วมมือกับทางเมดโทรนิคในครั้งนี้จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการของศูนย์พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ (MIND Center) และความร่วมมือในการพัฒนาศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้จะเป็นการร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนงานด้านการสร้างนวัตกรรมทางด้านเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย ในอนาคตเราจะทำให้ผู้ป่วยของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและการดูแลที่ดีขึ้น" ศาสตราจารย์ ปิยะมิตร ศรีธารา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว

"ความร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นไม่เฉพาะสำหรับเมดโทรนิคและโรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ยังรวมไปถึงสาธารณสุขในวงกว้าง ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความตั้งใจในการนำหลักการการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่ามาใช้ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนระบบสาธารณสุขโดยเน้นการพัฒนาผลการรักษาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยในราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังช่วยยกระดับมาตรฐานในการให้บริการการรักษาผู้ป่วยอย่างยั่งยืน เมดโทรนิคเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น" คุณ โอมาร์ อิชรัก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมดโทรนิค กล่าว

เกี่ยวกับเมดโทรนิค

บริษัท เมดโทรนิค จำกัด (มหาชน) (www.medtronic.com) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ระดับโลก – เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เพื่อฟื้นฟูสุขภาพและ เพื่อยืดอายุผู้คนนับล้านทั่วโลก เมดโทรนิคมีพนักงานมากกว่า 86,000 คนให้บริการแก่แพทย์ โรงพยาบาลและผู้ป่วยในกว่า 150 ประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลกเพื่อดูแลสุขภาพที่ดีด้วยกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ