ไทยพาณิชย์ประกาศผลกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2562 จำนวน 9,157 ล้านบาท

ศุกร์ ๑๙ เมษายน ๒๐๑๙ ๐๙:๑๐
ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2562 จำนวน 9,157 ล้านบาท (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 29% ตามการปรับตัวดีขึ้นของการดำเนินงานที่สำคัญ

ในไตรมาส 1 ปี 2562 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 24,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ธนาคารอยู่ในระหว่างการปรับพอร์ตสินเชื่อและเริ่มขยายสินเชื่อในธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงเล็กน้อยเพียง 0.3%

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของรายได้สุทธิจากธุรกิจประกันชีวิต

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาสนี้ มีจำนวน 17,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 11% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ จำนวน 1.4 พันล้านบาท หากไม่รวมค่าใช้จ่ายครั้งเดียวนี้ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จะเท่ากับ 47.5% ลดลงเมื่อเทียบกับ 47.7% ในไตรมาสก่อน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 2% จากไตรมาสก่อน

ในไตรมาสนี้ คุณภาพของสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวนลดลง ในขณะที่อัตราส่วน NPL ปรับตัวดีขึ้นเป็น 2.77% จาก 2.85% ในไตรมาสก่อน และจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติ่มไว้ในไตรมาสก่อน ธนาคารจึงได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 5,420 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ หรือคิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ 1.02% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจในปัจจุบัน อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับสูงขึ้นเป็น 152.8% เมื่อเทียบกับ 146.7% ในไตรมาสก่อน และเงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.1%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า

"แม้ว่าในไตรมาสนี้ธนาคารจะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ ธุรกิจหลักของธนาคารยังคงขยายตัวได้ดีและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากผลลัพธ์ของโครงการ Transformation ที่ได้ปรากฎเด่นชัดขึ้นตามลำดับ รวมถึงจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการบนดิจิทัลแพลตฟอร์มของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธนาคารมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิผลจากการลงทุนในโครงการ Transformation ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่และการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่จะทยอยลดลงในอนาคต ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ริเริ่มนำวัฒนธรรมองค์กรแบบ Agile มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ธนาคารมีความสามารถในการตอบสนองผู้บริโภคในเรื่องของการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ความรวดเร็ว (Speed) นวัตกรรม (Innovation) และวัฒนธรรมความเสี่ยง (Risk Culture) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็น 'ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด' "

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๕๑ ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ จับมือ PMK Group จัดกิจกรรม CSR 2024
๑๔:๕๘ เสียวหมี่ ประเทศไทย ประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่
๑๔:๕๙ งาน Amarin BabyKids Fair ช็อปมัน เพื่อแม่ลูก ธีมงาน FUN สนุกเล่น สนุกคิด เสริมสร้างจินตนาการ
๑๔:๔๐ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัล CAC Change Agent Award 2024
๑๔:๒๒ เรียนรู้จากตัวจริง! ธุรกิจการบิน SPU ทัวร์คลังสินค้า บางกอกแอร์เวย์ส เจาะลึกโลจิสติกส์การบิน เสริมความพร้อมสู่อุตสาหกรรมในอนาคต
๑๔:๐๘ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ปั้นคอนเทนต์ ครีเอเตอร์วัยเยาว์ จัดประกวดทำคลิปสั้นโครงการ อาหารดีพี่ให้น้อง ปี 7
๑๔:๕๖ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมฉลอง 44 ปี สยามอะเมซิ่งพาร์ค ชูบทบาทขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย
๑๔:๕๓ แม็คโคร ส่งท้ายปี ด้วยแคมเปญ Happiness Overload ขนทัพกระเช้าของขวัญคอลเลคชันพิเศษ รับเทศกาลปีใหม่
๑๔:๕๑ แสนสิริโกยยอดโอนคอนโดทะลัก 11,300 ล้านบาท ทุบเป้าทุกไตรมาส ล่าสุดประกาศปรับเป้าโอนคอนโด ทะยานสู่ 14,500 ล้านบาท มั่นใจปี '67
๑๔:๒๖ เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว