นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดโดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจากฐานการท่องเที่ยวระดับสากลเร่งส่งเสริมและพัฒนาการ ท่องเที่ยวสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นศูนย์กลางการเติบโตสู่เมืองดิจิตอล เมือง สุขภาพ เมืองการศึกษา และเมืองนานาชาติ พรอ้มยกระดับขีดความสามารถของบริการแห่งรัฐและบริการของภาคธุรกิจในทุกๆ ด้าน พร้อมต่อการจัดบริการที่เป็นสากลและรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ในสิ่งที่ดีงามของจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้เดินทางมาจัดอบรมโครงการพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับ SMEs ที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจ ทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองที่มีการพัฒนาในทุกๆมิติ
นายวชิระ แก้วกอ ผู้อำนวยการฝ่ายประสานเครือข่ายผู้ให้บริการ SMEs รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มงานข้อมูลและสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่าง สสว. กับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ISMED) ในการผลักดัน ผู้ประกอบการในเขตภาคใต้ ได้แก่ จังหวัด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช สงขลา กระบี่ ภูเก็ต ให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านตลาดออนไลน์ ผ่านโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SMEs ด้วยการอบรมหลักสูตร "เปิดร้านค้าออนไลน์ง่ายนิดเดียว" ซึ่งได้รวม SME ในเขตพื้นที่ภาคใต้จำนวนกว่า 1,000 ราย เข้าสู่ตลาดออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังในระดับสากล ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาส และสร้างศักยภาพในการแข่งขันบนช่องทางตลาดออนไลน์ในระดับสากลได้อย่างมืออาชีพ นับว่าโครงการดังกล่าว เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วไปและผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ภูมิภาค ได้มีโอกาสยกระดับในการพัฒนาสินค้า และจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
นายวชิระ เผยอีกว่า โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SMEs เป็นโครงการที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Digital to Global ซึ่งเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนา SME ไปสู่การเป็น Modernization เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดออนไลน์ในระดับสากล โดยนับตั้งแต่ปี 2560 - 2561 มี ผู้ประกอบการ SME ที่เข้าร่วมโครงการ และได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์แล้วกว่า 120,000 ราย เตรียมความพร้อมในการถ่ายภาพสินค้า และ จัดทำรายละเอียดสินค้ากว่า 265,000 ผลิตภัณฑ์ และสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 20,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการกว่า 450 ล้านบาท และในปีนี้ยังระดมความรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในการทำตลาดออนไลน์ในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ให้แก่ผู้ประกอบการ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการที่ยังไม่เปิดร้านค้าออนไลน์ กลุ่มผู้ประกอบการที่มีร้านค้าออนไลน์แล้ว และกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ที่มีศักยภาพ ซึ่งเน้นให้องค์ความรู้ ตั้งแต่การเลือกสินค้าและการกำหนดราคา การจัดทำเนื้อหาและภาพสินค้า ความชำนาญในการบริหารจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการบริหารจัดการ