สอศ.ร่วมมือ ธปท. สานต่อความรู้การเงิน โครงการ “Fin. ดี We can do!!! Season 2”

ศุกร์ ๒๖ เมษายน ๒๐๑๙ ๐๙:๕๗
ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินและเปิดตัวโครงการ Fin. ดี We can do!!! Season 2 ณ ห้องภัทรรวมใจ อาคาร 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย

ดร.พีระพล เปิดเผยว่า สอศ.และธปท. มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางการเงินแก่นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อให้เกิดความตระหนัก มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ซึ่งถือเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญของเยาวชนในสถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ และเป็นแนวทางในการพัฒนาระดับทักษะทางการเงินของนักเรียน นักศึกษาในระดับที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ สอศ.และธปท.จะร่วมมือกันพัฒนาเนื้อหาความรู้และกิจกรรมต่างๆ สำหรับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรอาชีวศึกษา โดยมอบหมายให้บุคลากรและ/หรือกลุ่มงานจัดทำเนื้อหาและสื่อความรู้ เพื่อเผยแพร่บนสื่อต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนและผลักดันให้มีการปฏิบัติต่อเนื่องอย่างยั่งยืนในการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมต่างๆ โดยจะมีการพัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งจะร่วมมือกันเผยแพร่ความรู้ทางการเงินผ่านช่องทางเครือข่ายของแต่ละฝ่าย ตลอดจนการร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่และส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้แก่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรอาชีวศึกษา จัดการประเมินผลกิจกรรมให้ความรู้และมีการติดตามผลความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาเนื้อหาความรู้ กิจกรรม และการกำหนดนโยบายพัฒนาทักษะทางการเงินของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาต่อไป

ด้าน นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากความสำเร็จของโครงการ "Fin. ดี We can do!!! ในครั้งที่ 1 เมื่อปี 2561 เป็นโครงการนำร่องในสถานศึกษา สังกัด สอศ.จำนวน 17 แห่ง จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จึงทำให้เกิดการจัดกิจกรรมการประกวดผลงานด้านความรู้ทางการเงิน "Fin. ดี We can do!!! Season 2" และพบว่านักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการมีพฤติกรรมทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถส่งต่อความรู้ทางการเงินจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ผ่านการทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งมีการถ่ายทอดแนวคิดไปสู่สถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสานต่อการบ่มเพาะภูมิคุ้มกันและทักษะทางการเงินที่ดีให้แก่นักศึกษาอาชีวศึกษา รวมทั้งต่อยอดการสร้างเครือข่ายขยายผลความรู้ทางการเงินอย่างยั่งยืน เปิดโอกาสให้นักศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศได้แสดงศักยภาพ และพัฒนาทักษะทางการเงินที่ดีต่อไป

สำหรับโครงการ Fin. ดี We can do!!! Season 2 เป็นการประกวดผลงานส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาอาชีวศึกษาได้เรียนรู้จากการคิดค้นและทดลองปฏิบัติจริงบนแนวคิด "ผลงานของคนอาชีวะ เพื่อคนอาชีวะ" โดยมุ่งเน้นการนำความรู้ทางการเงินมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ตั้งแต่การคิดวิเคราะห์โจทย์ วางแผน ลงมือทำ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ติดตามผล ตลอดจนนำเสนอผลลัพธ์ ซึ่งจะขยายสู่สถานศึกษา สังกัด สอศ. จำนวน 150 แห่ง รวมทั้งการสร้างพฤติกรรมทางการเงินที่ดีของคนไทยอย่างยั่งยืน

รองเลขาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกวดแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับโครงงานสร้างสรรค์ และระดับสถานศึกษาต้นแบบ ซึ่งระดับโครงงานสร้างสรรค์: เปิดรับผลงานของนักศึกษาจากสถานศึกษา สังกัด สอศ. ทั่วประเทศ เพื่อคัดเลือก 40 ทีม ที่จะได้รับการเตรียมความพร้อมในด้านความรู้ทางการเงินพื้นฐาน และเทคนิคในการจัดทำผลงาน หลังจากนั้นจะคัดเลือก 20 ทีม จากข้อเสนอโครงการให้ลงมือทำผลงานจริง โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนและคำแนะนำจากทีมงาน ธปท. และในรอบชิงชนะเลิศจะเป็น 10 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตัดสินรางวัล โดยมุ่งเน้นผลในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งโครงงานนี้ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ กิจกรรมการเรียนรู้ และกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์

ส่วนระดับสถานศึกษาต้นแบบ : เป็นการสานต่อความยั่งยืนของการส่งเสริมความรู้ทางการเงินในสถานศึกษา โดยสถานศึกษา สังกัด สอศ.ที่มีผลงานผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในการประกวดโครงการ Fin ดี We can Do!!! ในปี 2561 นำผลงานดังกล่าวมาต่อยอดและขยายไปสู่สถานศึกษา สังกัดสอศ. อื่นๆ โดยสมาชิกในทีมจะเป็นนักศึกษา และหรือ ครู ซึ่งเป็นสมาชิกเดิม หรือสมาชิกใหม่ก็ได้

สำหรับรางวัล นักศึกษา ครูที่ปรึกษา ครูที่เป็นสมาชิกทีม และผู้บริหารสถานศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติการอบรมความรู้ทางการเงิน และทักษะอื่นๆ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ สำหรับทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินทุนสนับสนุนเพื่อจัดทำผลงานและเงินรางวัลรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 17 มิถุนายน 2562 โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารการประกวดได้ที่ www.1213.or.th และ www.facebook.com/hotline1213 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0-2283-6157, 0-2356-7181 และ 0-2283-6760 รองเลขาธิการ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ