การกระทำผิดกฏระเบียบของ ก.ล.ต. ในเรื่องการใช้ข้อมูลภายในโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ในการซื้อหุ้น PTL ในปี 2559 ตามคำวินิจฉัยของ ก.ล.ต. ได้สะท้อนภาพในแง่ลบในเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัทให้เป็นธรรมและโปร่งใส โดยเฉพาะประสิทธิผลของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท โดยความเสี่ยงดังกล่าวอาจจะจำกัดหรือมีผลทางลบต่ออันดับเครดิตของ PTL ได้ถ้าไม่ถูกจัดการแก้ไข ฟิทช์จะติดตามมาตรการของ PCL และ PTL ในการป้องกันมิให้การกระทำผิดเกิดขึ้นอีก PTL ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
ก.ล.ต. ยังกำลังพิจารณาลงโทษให้กรรมการ 3 คน และผู้บริหาร 2 คน ของ PTL พ้นจากตำแหน่งกรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการต่อไป PCL มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของ PTL ผ่านทางคณะกรรมการบริษัทฯและคณะผู้บริหารของทั้งสองบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยกรรมการ 4 คนจากทั้งหมด 8 คน และผู้บริหารระดับสูงหลัก ซึ่งรวมถึงกรรมการผู้จัดการของ PTL ได้รับการแต่งตั้งโดย PCL
กรรมการและผู้บริหารของ PTL, PCL และบริษัท โพลีเพล็กซ์ (เอเชีย) จำกัด หรือ PAPL ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย PCL จะต้องชำระค่าปรับทางแพ่ง และ PAPL จะต้องส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดดังกล่าว จำนวนเงินรวมทั้งสินประมาณ 53 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ PCL โดย PCL มีเงินสดจำนวน 7.8 พันล้านรูปีอินเดีย (เทียบเท่า 3.6 พันล้านบาท) สำหรับงบการเงินรวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2561 อย่างไรก็ตาม หนี้ส่วนใหญ่ของ PTL เป็นหนี้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ซึ่งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงินหลายแห่ง แต่ความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินต่อบริษัทที่อาจลดลงจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจเพิ่มความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเงินทุนใหม่เพื่อชำระคืนหนี้เดิมได้