วันนี้ ( 1 พ.ค.62) ณ หอประชุมใหญ่กรมประชาสัมพันธ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบเกียรติบัตรของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับเข็มเกียรติคุณจากการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย จำนวนกว่า 1,400 คน พร้อมยืนสงบนิ่งไว้อาลัย แด่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปเจรจากับสหภาพยุโรปในการปลดใบเหลืองประมงไทย และยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ เทียร์ 2
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นความสำเร็จของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่จะปลดใบเหลือง แต่เป็นการยกระดับการทำประมงเชิงพาณิชย์ทั้งในและนอกน่านน้ำเข้าสู่มาตรฐานสากล และเตรียมความพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือในด้านการประมงกับสหภาพยุโรป เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมประมงไทยเท่านั้น และสิ่งสำคัญที่สุดที่เราทุกคนตระหนักดี คือ เพื่อรักษาฟื้นฟูทรัพยากรประมงให้ยั่งยืน"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชาวประมง ผู้ประกอบการประมงไทยทั้งระบบ ได้ร่วมมือร่วมใจกันจนมีผลเป็นรูปธรรมอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านกรอบกฎหมาย การบริหารจัดการประมง การบริหารจัดการกองเรือ การติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวัง (MCS) การตรวจสอบย้อนกลับ และการบังคับใช้กฎหมาย จึงทำให้ประเทศไทยสามารถแสดงความรับผิดชอบและบทบาททั้งในฐานะรัฐเจ้าของธง รัฐชายฝั่ง รัฐเจ้าของท่า และรัฐตลาด ในระดับของมาตรฐานสากล จนสามารถแสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของประเทศไทย วันนี้ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนได้เชิญชวนสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมแผนงาน ASEAN IUU Network เพี่อร่วมกันต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ทรัพยากรประมงของภูมิภาคอาเซียนทุกประเทศสมาชิกกใประโยชน์ร่วมกันเกิดความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในเดือนตุลาคม 2562 นี้ จะเริ่มขับเคลื่อนแผนงาน ASEAN IUU Network ได้ทันที "พลเอกฉัตรชัย กล่าว
ด้านนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพิธีมอบเกียรติบัตรของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และเข็มเกียรติคุณจากการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ในครั้งนี้ มีหน่วยงานราชการ ได้แก่ กองทัพเรือ ศปมผ. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมง กระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่า กระทรวงการต่างประเทศ กรมสารนิเทศ กระทรวงแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด กรมการปกครอง กรมศุลกากร องค์การสะพานปลา ภาคเอกชน สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ภาคประชาสังคม ได้แก่ สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) Environmental Justice Foundation (EJF) ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเล (สเตล่ามาริส) หน่วยงานต่างประเทศ ได้แก่ Oceanmind บริษัทโปรเฟสชั่นแนล เซอร์วิส โพรไวเดอร์ จำกัด และ World Wildlife Fund (WWF) จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,400 คน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกคนที่ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจการแก้ไขปัญหาประมง IUU ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ อุทิศกำลังกายกำลังใจ ฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ จนผลงานเป็นที่ประจักษ์สามารถ ปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปได้เป็นผลสำเร็จ ถือได้ว่าเป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่การประมงของประเทศไทย และส่งผลดีต่อประเทศชาติควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญให้เป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล
" ตลอดระยะเวลา 3 ปีเศษ ที่ได้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหา IUU ทุกหน่วยงานได้ใช้แนวทางการทำงาน ภายใต้นโยบายของ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี โดยยึดหลัก DPMCS และสัญลักษณ์รูปดาว ประกอบด้วย D " Discipline" คือ ความมีวินัย ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ หรือ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ P "Professionalism" ความเป็นมืออาชีพ มีความรอบรู้และเชี่ยวชาญในหน้าที่ที่รับผิดชอบ M " Morale" การมีกำลังใจให้กันและกัน ทั้งกับพี่น้องชาวประมง ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม กับเจ้าหน้าที่ หรือ ระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกัน C " Cooperation" ความร่วมมือ รักษาระดับมาตรฐานของประเทศที่ต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อนำไปสู่ประเทศที่ปลอดการทำประมงผิดกฎหมายทั้งระบบที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด S " Sustainability" ความยั่งยืน คือ เป้าหมายสูงสุดในการปฏิรูปการประมงครั้งสำคัญที่สุด ส่วนสัญลักษณ์ รูปดาว ก็คือการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทาง D P M C S นำมาสู่การมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม เป็นตัวอย่างอันดีแก่บุคคลอื่น ทำให้บุคลากรทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานนี้ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง เป้าหมายการประมงอย่างยั่งยืนจะบรรลุความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น" นายอดิศรกล่าว
นอกจากนี้ ทุกคนยังได้ร่วมกันแสดงความไว้อาลัย ด้วยการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อสดุดีท่านทูต วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปเจรจากับสหภาพยุโรปในการปลดใบเหลือง IUU ประมงไทย โดยท่านได้ไปเจรจากับหัวหน้าคณะทำงาน ฝ่ายสหภาพยุโรปเจรจากับคณะสมาชิกรัฐสภายุโรป การชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการประมงสหภาพยุโรป
รวมทั้งเดินสายทำความเข้าใจกับกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่กล่าวหาเรื่องการทำประมงของไทยผิดกฎหมาย อีกทั้ง ยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ เทียร์ 2 จึงถือว่าท่านเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนทำให้ประเทศไทยสามารถปลดใบเหลือง IUU ได้สำเร็จ นับว่าเป็นผู้มีคุณูปการต่อการประมงไทย ควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญตลอดไป