บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เล็งเห็นว่า "สุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง" (Health is the Greatest Wealth) จึงมุ่งส่งเสริมให้ชาวไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง โดยเริ่มต้นจากภายในองค์กรเอง และขยายสู่สังคมภายนอก สอดรับกับยุทธศาสตร์ 'SCBLIFE Transformation' ที่มุ่งปรับทุกกระบวนการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการปรับเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินชีวิตจากภายในเพื่อสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรงยั่งยืนของพนักงานในองค์กร
นายเสถียร เลี้ยววาริณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "SCBLIFE ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมโดยผนวกอยู่ในกระบวนการธุรกิจ (CSR In Process) เพื่อสร้างผลลัพธ์และประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยมีพนักงานเป็นกุญแจสำคัญ โครงการกิจกรรมเพื่อสังคมของ SCBLIFE จึงมุ่งเน้นจุดประกายและสร้างความร่วมมือจากพนักงาน เพื่อต่อยอดออกสู่สังคมภายนอก ให้พนักงานได้เห็นว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ โดยเริ่มต้นจากการปรับหลักความคิด (mindset) และเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของตนเอง เพื่อนำไปสู่สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น และขยายต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์สุขภาพที่ดีให้กับสังคมและผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้บริโภค"
จุดเริ่มต้นจากผลการตรวจสุขภาพของพนักงานภายในองค์กร SCBLIFE ซึ่งพบว่าพนักงานกว่า 50% มีค่า BMI เกินมาตรฐาน หรือภาวะโรคอ้วน นำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง ในขณะเดียวกันพนักงานจำนวนมากยังไม่เห็นความสำคัญของการตรวจสุขภาพและไม่รู้วิธีอ่านผลสุขภาพ ทำให้ไม่รู้ว่าสุขภาพของตัวเองอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือผิดปกติ จึงเป็นที่มาของโครงการ Let's Talk Health 2019 ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมรูปแบบ Knowledge Learning การเรียนรู้เพื่อสร้างสุขภาพดีแบบองค์รวม ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี เพื่อจุดประกายให้พนักงานเกิดพลังที่จะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองสู่การมีสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน mindset วิธีการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน การกินอาหารต้านโรค การป้องกันและรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม การอ่านค่าผลการตรวจสุขภาพเพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงและภาวะโรคที่เกิดขึ้นกับตัวเองพร้อมการดูแลรักษา ตลอดจนวิธีการดูแลสุขภาพแนวใหม่ด้วยเทคนิค IF และ Keto โดยวิทยากรชั้นนำ อาทิ พญ. ธิศรา วีรสมัย หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย ประจำโรงพยาบาลพญาไท 1 อาจารย์สง่า ดามาพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ สสส. ครูเชฟใบคา Influencer ด้านสุขภาพ เจ้าของเพจ "ชะนีมีกล้าม" และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเป็นยาจากทีมงานชีวจิต เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ภายใต้แนวคิดการแสดงความรับผิดชอบผ่านกระบวนการของธุรกิจ (CSR in Process) SCBLIFE เล็งเห็นโอกาสที่จะต่อยอดความช่วยเหลือออกสู่สังคมภายนอกผ่านทางการแบ่งปันและสร้างโอกาส โดยเฉพาะต่อผู้พิการ ซึ่งมักถูกละเลยด้านสุขภาพ ขาดแรงบันดาลใจ และไร้ทิศทางในการดำเนินชีวิต บริษัทฯ จึงจัดกิจกรรมเพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงและร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อผู้พิการ ซึ่งมีทั้งกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิต และกิจกรรมที่มุ่งผลลัพธ์ระยะยาวด้านการฟื้นฟูพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกาย โดยการสร้างและปรับปรุงห้องออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับผู้พิการ เพื่อช่วยให้ผู้พิการได้มีโอกาสทำงานหรือดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ SCBLIFE ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญการรณรงค์ให้คนไทยมีการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพที่ดี เพราะตระหนักดีว่าชีวิตตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ในผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง บริษัทฯ จึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลสุขภาพที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยด้านการวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือเรื่องสุขภาพ และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าหากเจ็บป่วย จะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด โดยได้รับผลประโยชน์และค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนเงินชดเชยรายได้ตามแผนความคุ้มครองที่เลือกด้วยตนเอง รวมถึงการมีหลักประกันชีวิตเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับครอบครัว แม้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน คนที่อยู่ข้างหลังจะยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอน
ด้วยแนวคิดที่ว่า "สุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริงของชีวิต" SCBLIFE จึงเชื่อมั่นว่า การที่พนักงานในองค์กรมีสุขภาพและจิตใจที่ดี จะนำไปสู่การบริการที่ดีให้กับลูกค้าและสังคมตามมา บริษัทฯ จึงได้ดำเนินธุรกิจและริเริ่มกิจกรรมเพื่อสังคมโดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายได้เปลี่ยนมามีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง โดยเริ่มต้นจากพนักงานภายในองค์กรและต่อยอดขยายออกสู่ภายนอกองค์กร ทั้งยังสะท้อนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจกรรมเพื่อสังคมที่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืนด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพขององค์กรนั่นเอง