ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ เปิดบริการ Chiang Mai International Dental Center (CIDC) ภายในกลางปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เลขที่ 11 ถนนนิมมานเหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีขนาดของพื้นที่ 240 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5.6 ล้านบาท โดยคาดว่าระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ประมาณ 4 ปีครึ่ง
สำหรับวัตถุประสงค์ การเปิดให้บริการ เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะรุกขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม และเป็นการขยายฐานลูกค้าในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวต่างชาติในโซนนั้น รวมถึงจะทำให้รายได้ของกลุ่มบริษัทฯเติบโตได้มากขึ้น
นอกจาก บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการ โรงพยาบาลฟัน สุขุมวิทซอย 2 แห่งใหม่ในไตรมาส 2/62 ขณะนี้ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ และการตกแต่งภายในขั้นสุดท้าย ซึ่งรพ.ดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ห้องทันตกรรม จำนวน 19 ห้อง ห้องผ่าตัด และห้องเตรียมผ่าตัด สำหรับรพ.ฟันแห่งนี้ มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น เพราะทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทฯ มีศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรม รวม 16 สาขา ตั้งอยู่ในพื้นที่กทม. 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขาดำเนินการภายใต้ "BIDC" 1 สาขา "Dental Signature" 4 สาขา "Smile Signature 8 สาขา และ"Dental Planet" 3 สาขา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวถึงผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/62 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 199.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.65% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 125.58 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 3.84 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 11.03 ล้านบาท
รายได้ยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง เพราะบริษัทได้ทยอยรับรู้รายได้ในส่วนงานขายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรมเพิ่มเข้ามาในไตรมาสนี้ และคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาปีละประมาณ 300-400 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา บริษัท เดนทัล ออล (ประเทศไทย) จำกัด (DAT) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ได้เซ็นสัญญารับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องมือทันตกรรมของ Planmeca Group ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับ เพราะเป็นเครื่องมือ และอุปกรณ์ในระบบดิจิทัลที่มีมาตรฐานสูง ในวงการการแพทย์ระดับโลกนิยมนำมาใช้กัน สำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาเพื่อวางจำหน่าย อาทิ เครื่องเอกซเรย์ เครื่องสแกนเนอร์ และเก้าอี้ทันตกรรม จึงช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 2 เท่าตัว หรือแตะ 1 พันล้านบาท
"ในปีนี้บริษัทจะทยอยรับรู้ผลของการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาและจะเริ่มทยอยทำกำไรได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันการจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม บริษัทได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง และจะมีสินค้าใหม่เพิ่มเข้า ซึ่งน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีทำให้มีรายได้เข้าสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ D เติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแข็งแรง"ทพ.พรศักดิ์ กล่าวในที่สุด