นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องในเดือนเมษายน2562 และผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดหลักทรัพย์อื่นในเอเชียโดยปัจจัยต่างประเทศสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน ได้แก่ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเป็นไปในทิศทางที่ประนีประนอมมากขึ้น และการขยายกำหนดเวลาการออกจากอียูของอังกฤษ แม้ว่าปัจจัยต่างๆ จะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่ ผู้ลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวังโดยให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจเป็นหลัก
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 ปิดที่ 1,673.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.1% จากสิ้นเดือนก่อน โดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index
- ในเดือนเมษายน 2562 ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 3,344 ล้านบาท
- มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนเมษายน 2562 อยู่ที่ 41,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน
- Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 อยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า และ 17.5 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ14.5 เท่า และ 16.3 เท่าตามลำดับ
- อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 อยู่ที่ระดับ 3.12% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.74%
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนเมษายน 2562 อยู่ที่ 17.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0% จากสิ้นปี 2561 สอดคล้องกับทิศทางของดัชนี
- ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่ที่ระดับ 6,051 ล้านบาทซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- ในเดือนเมษายน 2562 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 263,192 สัญญา ซึ่งลดลง 35% จากเดือนก่อน