นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิด "โครงการทำบัญชีส่งเสริมการออมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" และการประชุมสัมมนา เรื่อง "มิติทางบัญชีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" ปี 2562 พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ และเข็มเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชีที่ได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม และครูบัญชีดีเด่น ณ โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดทำ "โครงการทำบัญชีส่งเสริมการออมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการสร้างพลังการออม : ออมเงิน ออมความดี โดยใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการออม ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งจัดการประชุมสัมมนา เรื่อง "มิติทางบัญชีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" เพื่อสร้างพลังในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรฯ ให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยใช้บัญชีเป็นกลไกสำคัญ ซึ่งสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนแม่บทภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายกระทรวงเกษตรฯ โดยมุ่งหวังให้ผู้ปฏิบัติงานส่งเสริมการจัดทำบัญชีรายบุคคลของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ทั้งบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน และอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชน ได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องนโยบายของรัฐบาล และแผนงาน ตลอดทั้งโครงการสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาฯ ประกอบด้วย อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี และข้าราชการกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ปฏิบัติงานโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 357 คน
ทั้งนี้ รัฐบาลมีงานนโยบายสำคัญหลายประการ และต้องการให้มีการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในด้านต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีจึงได้เสนอให้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้สอดรับแนวทางการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ในนิยาม "ชุมชนอยู่ดีมีสุข"ด้วยการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร โดยน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นองค์หนึ่งของศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนภารกิจสู่เป้าหมายการส่งเสริมการทำบัญชีรายบุคคลที่เกิดประโยชน์ต่อผู้รับบริการอย่างเป็นรูปธรรม
นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการทำบัญชีส่งเสริมการออมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีวินัยทางการเงิน เกิดกลไกที่เข้มแข็งในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป จำนวน 100,000 คน และกำหนดจัดกิจกรรมในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และสิ้นสุดในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมระยะเวลา 4 เดือน (เมษายน-กรกฎาคม 2562) แบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรม"ทำบัญชีส่งเสริมการออม" เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมาย จำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 คน ได้เกิดแรงกระตุ้นในการสร้างวินัยทางการเงิน ลดรายจ่าย ลดหนี้สิน มีเงินออม และ 2. กิจกรรม "สร้างพลังการออม :ออมเงิน ออมความดี" เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายมีเงินออมเกิดขึ้น โดยตั้งเป้าหมายมีเงินออมรวมกัน จำนวน 10,000,000 บาท โดยกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจประโยชน์ของการทำบัญชีและการมีเงินออม โดยข้อมูลทางบัญชีสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจและการพัฒนาในด้านต่างๆ ให้ผู้ทำบัญชีสามารถดำรงชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ เกิดการต่อยอด สร้างเครือข่ายขยายผลในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปพัฒนาตนเองและชุมชนต่อไป