นางสาวญาณิชศา ชาติวุฒิกอบกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ 'AIMIRT' เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของทรัสต์ AIMIRT ในไตรมาส 1 ของปี 2562(ม.ค. - มี.ค. 2562) ยังคงมั่นคงและโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง จากทรัพย์สินของกองทรัสต์ที่มีคุณภาพสูง และทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ ทั้งห้องเย็นที่ตั้งอยู่ในย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และ บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และคลังสินค้าบนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นทำเลศูนย์กลางการผลิตและการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของประเทศ จึงมีความต้องการเช่าพื้นที่ในระดับสูง ส่งผลให้มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ต่อเนื่องมาตั้งแต่กองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สิน ซึ่งสัญญาการเช่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่าที่มีอายุเฉลี่ยมากกว่า 8 ปี ช่วยหนุนผลการดำเนินงานของกองทรัสต์และรักษาเสถียรภาพของการเติบโตได้ในระยะยาว
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่ออกมาดีตามที่คาดหมายส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรา 0.1822 บาทต่อหน่วย โดยกองทรัสต์มีกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 3มิถุนายน นี้
และด้วยผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับที่สูงทำให้เชื่อว่าทรัสต์ AIMIRT จะสามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอได้ในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นในการบริหารจัดการกองทรัสต์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การลงทุนในกองทรัสต์ หรือ REIT เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจจากจุดเด่นของผลตอบแทนเงินปันผลที่สม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงกว่าผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้โดยทั่วไป อีกทั้งยังมีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของทรัสต์ AIMIRT จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ โดยบริษัทฯ จะมุ่งมั่นหาทรัพย์สินที่มีคุณภาพดีและมีศักยภาพ มีโอกาสสร้างการเติบโตของรายได้ในระดับที่สูงและมีเสถียรภาพในระยะยาว โดยล่าสุดเตรียมเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในทรัพย์สินใหม่ที่มีคุณภาพและมีศักยภาพการเติบโตที่ดี จำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 4,300 ล้านบาท ผลักดันขนาดกองทรัสต์เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้แก่ ห้องเย็นโครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค (ส่วนขยายเพิ่มเติม) บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกลุ่มบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) คลังสินค้าโครงการ TIP 8 จังหวัดสมุทรปราการ ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด ถังเก็บสารเคมีเหลวและคลังสินค้า โครงการ SCC บนถนนสุขสวัสดิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ของบริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน) และคลังสินค้าโครงการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด ซึ่งทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนทั้งหมดล้วนเป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพ ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ รวมทั้งมีการกระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ทุกโครงการเป็นโครงการที่มีผู้เช่าเต็ม 100 % ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของทรัสต์ AIMIRT โดยประมาณการผลตอบแทนหลังจากเข้าลงทุนเพิ่มเติมในปีแรกอยู่ที่ 0.8188 บาทต่อหน่วย (อัตราผลตอบแทนตามประมาณการงบกำไรขาดทุนของกองทรัสต์ตามสมมติฐานสำหรับรอบระยะเวลา 12 เดือน (1 ก.ค. 2562 ถึง 30 มิ.ย. 2563) ซึ่งเชื่อมั่นว่ากองทรัสต์จะสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอได้ในระยะยาว