สธ. พร้อมหนุน พม.-มท. เดินหน้า “โครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด”สร้างเด็กไทยให้เติบโต เป็นเด็กดี เก่ง มีคุณภาพ

พฤหัส ๐๙ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๕:๓๗
กระทรวงสาธารณสุขขานรับมติรัฐบาลเรื่องเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0 - 6 ปี พร้อมร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงมหาดไทยตาม"โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด" เดินหน้าพัฒนาเด็กไทยให้เป็นคนดี เก่งและเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศไทย

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง การแถลงข่าว"โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด"ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ณ บริเวณโถง ชั้น 1 กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯว่าตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้สนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0 - 6 ปี จากฐานรายได้เดิม 36,000 บาท ขยายเป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งจะเปิดรับลงทะเบียนโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป

"โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด"นับเป็นโครงการที่ตอบสนองต่อการสร้างต้นทุนชีวิตที่มั่นคงให้กับเด็กและสอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ในการพัฒนาเด็กให้เป็นคนดี เก่งและเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ซึ่งจะต้องเริ่มพัฒนาตั้งแต่ช่วงปฏิสนธิในครรภ์จนอายุ 6 ปี เพราะเป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนาสูงสุดและยังเป็นรากฐานของการมีคุณภาพของคนๆหนึ่งอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต

โดยที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย ได้ดำเนินงานด้านการดูแลและปกป้องสุขภาพมารดาและเด็กปฐมวัย โดยสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและวางแนวทางดำเนินงานตามโครงการมหัศจรรย์ 1,000 วันแรกของชีวิต เริ่มตั้งแต่แม่ก่อนการตั้งครรภ์ แม่จะได้รับวิตามินเสริมธาตุเหล็กและโฟลิก ก่อนการตั้งครรภ์ 3 เดือน ฟรี เพื่อป้องกันความพิการแต่กำเนิดของลูก เมื่อตั้งครรภ์จะได้รับการตรวจครรภ์ทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ ได้รับวิตามินเสริมธาตุเหล็ก ไอโอดีน โฟลิกฟรี จนถึง 6 เดือนหลังคลอด เมื่อทารกคลอดได้กินนมแม่ในห้องคลอด และสนับสนุนให้กินนมแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ควบคู่อาหารตามวัยเด็กได้รับวัคซีนสร้างภูมิต้านทานโรค การประเมินภาวะโภชนาการและการเลือกเมนูอาหารตามวัยของลูกในสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก การตรวจพัฒนาการตามวัย การตรวจสุขภาพและการรักษาพยาบาลเมื่อยามเจ็บป่วย

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ การเจริญเติบโตและการส่งเสริมพัฒนาการเด็กในสถานบริการสาธารณสุข โดยมารดาช่วงตั้งครรภ์จะได้รับ สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก เพื่อดูแลสุขภาพตนเองและลูกควบคู่กับการได้รับความรู้ ฝึกทักษะการเลี้ยงดูลูกตามกระบวนการโรงเรียนพ่อแม่ โดยให้ความรู้แก่แม่หรือผู้เลี้ยงดูให้ดูแลสุขภาพ โภชนาการ ดูแลสุขภาพช่องปากและส่งเสริมพัฒนาการตามกระบวนการ กิน กอด เล่นเล่า นอน เฝ้าดูฟัน และพ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็กจะได้รับความรู้ตรงจากโปรแกรม ๙ ย่างเพื่อสร้างลูก เมื่อเด็กอายุ 3-5 ปี เป็นช่วงสมองส่วนบริหารพัฒนาสูงสุด ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะอยู่ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและโรงเรียนระดับชั้นอนุบาล กรมอนามัย จึงได้ผลิตคู่มือการเรียนการสอน ด้านสุขภาพตาม "คำสอนพ่อ" เพื่อให้คุณครูใช้เป็นคู่มือการจัดประสบการณ์เรียนรู้แบบ STEM EDUCATION โดยบูรณาการเนื้อหา สุขภาพ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเองแบบ Project approach ด้วยการลงมือทำปฏิบัติจริง นำความรู้ สู่ความคิดสร้างสรรค์ คิดเชิงวิพากษ์ การสื่อสารและสร้างนวัตกรรม อีกทั้งผลิตคู่มือต้นแบบ "เลี้ยงลูกตามคำสอนของพ่อ" คุณธรรม 8 ประการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ครอบครัวได้ใช้ในการอบรม บ่มเพาะลูก

"นอกจากนี้ กรมอนามัยได้ขับเคลื่อนมาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ.2560 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ปกป้องให้เด็กรับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนและกินนมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนลูกอายุ 2 ปี และมีการติดตามเด็กในโครงการฯ โดยใช้ โครงการฯ โดยใช้สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก เพื่อตรวจสอบการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ ดังนี้ 1) มารดาช่วงตั้งครรภ์ ฝากครรภ์ตามนัดหรือไม่ 2) มีการบันทึกน้ำหนัก ส่วนสูงและจุดกราฟโภชนาการและประเมินพัฒนาการลูกหรือไม่ 3) มีการพาลูกไปตรวจสุขภาพ ตรวจพัฒนาการ ฉีดวัคซินตามนัดหรือไม่ และ 4) ได้ใช้สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กอ่านและบันทึก การดูแลสุขภาพของแม่และลูกตามแนวทางการเลี้ยงดูเด็กตามวัยอย่างเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการติดตามอย่างต่อเนื่องและเติบโตเป็นเด็กไทยที่ดี เก่ง และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ" อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

ในขณะที่นายปรเมธี วิมลศิริปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(ปลัด พม.)กล่าวว่ากระทรวง พม. โดย ดย. ได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบกรมกิจการเด็กและเยาวชน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ให้สอดรับกับมติคณะรัฐมนตรีฯ พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้รองรับกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันมีผู้มีสิทธิจำนวน 600,000 คน และคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2562จะมีเด็กได้รับสิทธิประมาณ 1,500,000 คน รวมทั้งพัฒนาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำเข้าข้อมูลแบบสมบูรณ์เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องของรับเงินอุดหนุน การตรวจสอบสถานะของผู้มีสิทธิของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ในฐานะเจ้าของข้อมูล เพื่อติดตามความก้าวหน้าของกลุ่มเป้าหมาย และพัฒนาให้ผู้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิสามารถตรวจสอบสิทธิได้ด้วยตนเอง

"กระทรวง พม. จะเปิดให้ผู้มีสิทธิได้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2562 โดยผู้มีสิทธิที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถลงทะเบียนยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานครและผู้ที่อาศัยอยู่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นคำร้องได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เด็กอาศัยอยู่ ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร 0 2255 5850-7 ต่อ 121,122,123 ,147 และ 0 2651 6534 โทรสาร 0 2253 9119 หรือติดตามที่ Facebook โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด" นายปรเมธี กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO