นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/62 มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 285 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากงวดเดียวกันของปีก่อน สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อใหม่แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อร้อยละ 62 สินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคลร้อยละ 38 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 83.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.81 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 70.60 ล้านบาท
กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/62 เท่ากับ 8.76 ล้านบาท ลดลง 4.48 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 33.80 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.24 ล้านบาท
สำหรับประมาณการผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/62 นี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย โดยบริษัทเห็นความชัดเจนในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อรถแทรกเตอร์ ขณะเดียวกันความต้องการใช้สินเชื่อจากลูกค้ามีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้บริษัทยังคงเดินหน้าให้บริการสินเชื่อดังกล่าวแก่ลูกค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย
"ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อใหม่ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้า จากแนวโน้มและปริมาณที่ยังมีทิศทางที่ดี ขณะเดียวกันแผนการดำเนินธุรกิจช่วงที่เหลือจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด โดยการติดตามเจรจาหนี้สินจากลูกค้าอย่างใกล้ชิดและการใช้บริษัทบริหารติดตามหนี้ภายนอกเสริมอีกแรง ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับโครงสร้างและระบบการทำงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะผลักดันการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ดีขึ้น" นายสเปญ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ "สบายใจมันนี่" ร่วมกับ บริษัท 9F International Holding PTE. LTD ซึ่งเป็นบริษัททางการเงินชั้นนำจากประเทศจีน หลังได้มีการลงนามร่วมทุนอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ 9F ถือหุ้นในสัดส่วน 49% คาดว่าจะเสร็จสิ้นและสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 ตามแผน
ปีนี้บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อร้อยละ 75 สินเชื่อส่วนบุคคลและนิติบุคคลอีกร้อยละ 25 คาดการณ์สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจะเติบโตสูงขึ้นจากการขยายฐานลูกค้า อีกทั้งคู่ค้าในส่วนของเครื่องจักรกลทางการเกษตรจะออกสินค้าใหม่ ทำให้บริษัทประเมินทิศทางการขอสินเชื่อเช่าซื้อจะเพิ่มขึ้นตามสินค้าใหม่เช่นกัน