ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนผ่านบริการอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์เป็น 1,790 หยวน (หรือ 8,400 บาท) ในช่วงวันหยุดแรงงานที่ผ่านมา โดยประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ติดอันดับ 10 ประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศสูงสุด
ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 2 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มอาลีเพย์ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตามหลังฮ่องกงซึ่งครองอันดับ 1 ขณะที่มาเลเซียอยู่อันดับที่ 7 และสิงคโปร์อยู่อันดับที่ 9 จาก 10 ประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศสูงสุดในระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม
ผลสำรวจระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่แล้วในช่วงวันหยุดแรงงาน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ค้าหลายหมื่นรายรับชำระเงินผ่านอาลีเพย์จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ผลการศึกษาก่อนหน้านี้จากบริษัทวิจัยข้อมูลนีลเส็น (Nielsen) และอาลีเพย์ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จะใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือในต่างประเทศถ้าหากว่าสามารถทำได้
ข้อมูลสำคัญในรายงาน:
- ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนผ่านบริการอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์เป็น 1,790 หยวน (หรือ 8,400 บาท)
- ในแง่จำนวนการทำธุรกรรมนั้น ประเทศไทยติดอันดับสองของจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวด้วยยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1,153 หยวน (หรือ 5,400 บาท) ซึ่งเกือบจะเท่ากับวันแรงงานปีที่แล้วที่มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1,122 หยวน (หรือ 5,270 บาท)
- มาเลเซียและสิงคโปร์อยู่อันดับที่ 7 และ 9 ในแง่ยอดการใช้จ่ายของคนจีนภายในประเทศ
ผลการศึกษาที่สำคัญในประเทศไทย
- ช่วงวันหยุดแรงงาน ผู้ประกอบการที่มีอัตราการเติบโตทางธุรกรรมสูง ได้แก่ แท็กซี่และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
- ผู้ประกอบการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) แท็กซี่ และร้านขายยา
- ผู้ประกอบการที่มีการเติบโตของยอดใช้จ่ายเฉลี่ยในอัตราสูง ได้แก่ ร้านขายเครื่องประดับและอัญมณี
ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับผลการศึกษา:
- ข้อมูลช่วงวันแรงงานของอาลีเพย์ยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน กล่าวคือ กลุ่มผู้สูงอายุชาวจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง โดยธุรกรรมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีวันเกิดในช่วงทศวรรษ 1940 และ 1950 เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า โดยยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มเป็น 1,622 หยวน (หรือ 7,600 บาท)
- ราว 65 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ใช้บริการอาลีเพย์ในต่างประเทศในช่วงวันหยุดวันแรงงานเป็นผู้หญิง
- ยอดใช้จ่ายจากผู้ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 2000 เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 506 หยวน (หรือ 2,400 บาท) ในช่วงเวลาดังกล่าว
อาลีเพย์ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานรัฐบาล สถาบันทางการเงิน และหน่วยงานธุรกิจมากมายในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้งานอาลีเพย์ดียิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถเข้าถึงแอพอาลีเพย์ในทุกจุดท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่น สนุกกับการจับจ่ายใช้สอยผ่านแอพพลิเคชั่นธุรกรรมออนไลน์ที่การันตีความปลอดภัยบนมือถือ
เกี่ยวกับอาลีเพย์
อาลีเพย์ (Alipay) ดำเนินงานโดยกลุ่มบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Ant Financial Services Group) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์และโมบายล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2547 และปัจจุบันมีสถาบันการเงินในประเทศกว่า 1 พันล้านแห่งเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาลีเพย์ได้พัฒนาจากบริการดิจิตอลวอลเล็ต (Digital Wallet) สู่เครื่องมือที่รองรับไลฟ์สไตล์อย่างสมบูรณ์ โดยผู้ใช้สามารถเรียกแท็กซี่ จองห้องพักโรงแรม ซื้อตั๋วภาพยนตร์ จ่ายค่าสาธารณูปโภค นัดหมายเพื่อพบแพทย์ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารสินทรัพย์ได้โดยตรงจากภายในแอพ นอกเหนือจากการชำระเงินออนไลน์แล้ว อาลีเพย์ยังขยายครอบคลุมการชำระเงินแบบออฟไลน์ในร้านค้าทั้งในและนอกประเทศจีนอีกด้วย บริการชำระเงินในร้านค้าของอาลีเพย์ยังครอบคลุมกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ส่วนการขอคืนภาษีผ่านอาลีเพย์สามารถทำได้ใน 35 ประเทศและภูมิภาค อาลีเพย์ร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินในต่างประเทศกว่า 250 แห่ง เพื่อรองรับการชำระเงินระหว่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของจีน ปัจจุบันอาลีเพย์รองรับ 27 สกุลเงิน