ไปรษณีย์ไทย ย้ำ 'ยาเสพติด อาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย’ ห้ามส่งผ่านเส้นทางไปรษณีย์ หากตรวจพบจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแน่นอน

จันทร์ ๑๓ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๓๐
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ย้ำมาตรการสิ่งของห้ามส่งทางไปรษณีย์โดยเด็ดขาด ได้แก่ ยาเสพติด อาวุธและสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบว่ามีการลักลอบ ส่งสิ่งของต้องห้าม ไปรษณีย์ไทยจะตรวจสอบหาผู้กระทำผิด และส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดี ทางกฎหมายต่อไป

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการลักลอบฝากส่งยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายผ่านเส้นทางไปรษณีย์นั้น ขอย้ำว่าการฝากส่งยาเสพติด และอาวุธทางไปรษณีย์นั้น เป็นการกระทำที่ "ผิดกฎหมาย" เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามฝากส่งตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางไปรษณีย์ไทย มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของต้องห้ามและผิดกฎหมายที่เคร่งครัด ได้แก่ การขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งในการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ที่จะสามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ การฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป ตลอดจนการใช้เครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบ X-ray ณ ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ

จากมาตรการฯ ที่กล่าวมาข้างต้น หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนส่งยาเสพติด อาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์นั้น ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ และสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปได้อย่างแน่นอน สำหรับสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อ ป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์

นอกจากนี้ ในการฝากส่งทางอากาศนั้น ยังมีรายชื่อสิ่งของต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศเพิ่มเติมอีก 5 ชนิด ดังนี้ 1. สารออกซิไดซ์และออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ 2. ก๊าซหรือกระป๋องสเปรย์ 3. สารกัดกร่อน 4. วัตถุและสารต้องห้ามในการขนส่งทางอากาศ อาทิ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ และ5. อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะอันน่าจะทำให้หลงเชื่อว่าเป็นอาวุธ เช่น ปืนและเครื่องกระสุน ปืนไฟแช็ค หรือปืนเด็กเล่น เป็นต้น โดยหากมีการตรวจพบการฝ่าฝืน จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 80,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นางสมร กล่าว

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบและเข้มงวดในมาตรการการป้องกันการส่งสิ่งของ ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามวัตถุผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขจัดปัญหาเหล่านี้จากประเทศไทยต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๖ กปภ.ขานรับนโยบาย มท. มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ลดค่าติดตั้งประปา 15%
๐๙:๐๐ EXIM BANK ออกมาตรการของขวัญพิเศษปีใหม่ 2568 สร้าง ชีวิตดี มีความสุข ดีต่อใจ ผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก
๑๐:๕๑ รู้ทันสัญญาณอันตราย โนโรไวรัส (Norovirus)
๑๐:๓๗ เฮงลิสซิ่ง เคียงข้างผู้พิการ ส่งมอบวัสดุอลูมิเนียมทำขาเทียม แก่มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
๑๐:๒๙ UMI ส่งกระเบื้องยางไวนิลมาปรับเปลี่ยนบ้านจากเดิมให้หรูหรายิ่งขึ้น
๐๙:๑๐ KING POWER LANDING STORE จุดช้อปใหม่ สำหรับนักเดินทาง
๐๙:๕๗ กทม. ตั้งศูนย์บริการประชาชน อำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลปีใหม่-เร่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย การเดินทาง
๐๙:๐๒ โบว์ เบญจวรรณ ขึ้นแท่น Brand Ambassador Givora ร่วมส่งเสริมธุรกิจงานบริการการดูแลสุขภาพของคนไทย มิติใหม่ที่ตอบโจทย์ลดความเสี่ยงโรคร้ายแรง
๐๙:๒๗ ดร.วิภารัตน์ ผอ.วช. กระชับความร่วมมือไทย-จีน ระหว่าง วช. กับ CASS
๐๙:๔๓ STECH มอบกรวยยางและกระบองไฟให้สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง