นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 ของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรม โดยรายได้และกำไรเติบโตแรงสวนกระแสสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงต้นปีที่ชะลอตัว กล่าวคือสามารถสร้างรายได้รวมที่ 929 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้ง หลังการเข้าเทรดในหมวด "พาณิชย์" ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทำให้ผู้บริหารและพนักงานทั้งองค์กรมุ่งสู่วิสัยทัศน์เดียวกัน พร้อมเปิดโลกทัศน์การดำเนินธุรกิจพาณิชย์ที่ชัดเจนและสร้างความแตกต่าง ดึงเงินลงทุนใหม่ทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสนใจธุรกิจพาณิชย์ ซึ่งต่างจากธุรกิจสื่อแบบเดิม มีเม็ดเงินเข้าลงทุนในหุ้น RS อย่างมีเสถียรภาพ
ประกอบกับวิสัยทัศน์ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและขยายความสำเร็จของโมเดลธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (MPC) ผนวกกับจุดแข็งของกลุ่มบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทุกธุรกิจในเครือ
"อัตราการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของอาร์เอสที่เกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและความสำเร็จของโมเดลธุรกิจใหม่ที่ช่วยเกื้อหนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง" นายดามพ์กล่าว
สำหรับไตรมาสแรก ธุรกิจ MPC ยังคงเป็นดาวเด่น เป็นผลจากการที่บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ผ่านช่องไทยรัฐทีวี ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่แข่งแกร่ง อยู่ในกลุ่มผู้นำช่องดิจิตอลทีวีที่มีฐานผู้ชมทั่วประเทศ รวมทั้งบริษัทฯ ได้พัฒนาช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการปิดการขายของทีมเทเลเซลล์ ทำให้ระบบหลังการขายมีประสิทธิภาพ สามารถกระตุ้นให้ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกกว่า 100 SKU ต่อเนื่องตลอดปี 62 จำหน่ายผ่านช่องทางการขายต่างๆ รวมถึงมีสินค้าที่จำหน่ายเฉพาะช่องทางขายตรงชั้นเดียวหรือที่เรียกว่า LSBIZ (ตัวแทนขายมืออาชีพ) พร้อมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสแรก ส่งผลให้มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจทีวีดิจิตอล ช่อง 8 โดยภาพรวมสัดส่วนผู้ชมในระบบทีวีดิจิตอลรายใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ประกอบการทีวีรายเดิม ทำให้เม็ดเงินโฆษณาผ่านทีวีดิจิตอลรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนช่อง 8 ได้มีการปรับผังครั้งใหม่เมื่อต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อรองรับเม็ดเงินโฆษณารวมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป นำโดยซีรีส์ "อะลาดิน (Aladdin) " ละคร "เพลงลับแล" แนวดราม่า แฟนตาซี ลี้ลับ รวมถึงซีรีส์ไทย และรายการวาไรตี้ใหม่ ซึ่งจะทำให้เรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ตลอด 7 วันของช่อง 8 แข็งแกร่งขึ้น
รวมทั้งได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ประกอบกับอาร์เอสมีจุดแข็งในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพของทั้งกลุ่ม สามารถบริหารเวลาโฆษณาได้เต็มประสิทธิภาพ 100% โดยนำมาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ธุรกิจ MPC ทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
"จากความมุ่งมั่นดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่จะสร้างการเติบโตให้กับองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง การก้าวเข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์อย่างเต็มตัว และการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้และมีผลกำไรที่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายดามพ์กล่าวทิ้งท้าย